การบริหารงานบุคคล กศจ.ภาคใต้

การประชุมสัมมนาการบริหารงานบุคคลฯ ใน กศจ.ภาคใต้




จ.สุราษฎร์ธานี – พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ภาคใต้ เมื่อวันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน 2559 ที่โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี โดยมี พ.อ.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา, ศึกษาธิการภาค 6-8, ศึกษาธิการจังหวัด และคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด จาก 14 จังหวัด เข้าร่วมประชุมกว่า 350 คน



พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมในครั้งนี้ เพื่อให้การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามอำนาจหน้าที่ที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติกำหนดให้ กศจ. มีอำนาจในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ทางการศึกษา เป็นผู้พิทักษ์กฎ รวมทั้งสามารถดำเนินการบริหารจัดการด้านการศึกษาภายในจังหวัดได้อย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดส่วนใหญ่ได้ประชุมร่วมกัน ให้ข้อเสนอแนะ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนางานการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น


ทั้งนี้ ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ช่วยทำความเข้าใจเกี่ยวกับงานด้านการศึกษาที่ต้องเดินหน้าไปพร้อมกัน และขอให้ กศจ.ช่วยสื่อสารสร้างการรับรู้ต่อสาธารณะเกี่ยวกับการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา มุ่งสู่เป้าหมาย “ทำให้เด็กมีความสุข ครูมีความสุข ผู้ปกครองมีความสุข” พร้อมทั้งได้ฝากให้ กศจ.ช่วยขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในระดับภูมิภาค มีสาระสำคัญสรุปดังนี้




  • ธรรมาภิบาลในการทำงาน ได้แก่ หลักนิติธรรม  หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความรับผิดชอบ และหลักความคุ้มค่า ขอให้นำหลักธรรมาภิบาลมาใช้ในการทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างต่อเนื่อง



  • แผนพัฒนาการศึกษาจังหวัด ในความเป็นจริงการบริหารงานบุคคลเป็นเพียงส่วนหนึ่งของงานที่ กศจ.ต้องดำเนินการให้เรียบร้อยเสียก่อน เพื่อช่วยให้การทำงานเกิดมาตรฐาน มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล แต่งานที่สำคัญไม่น้อยกว่าการบริหารงานบุคคลคือ การจัดทำแผนการศึกษาระดับจังหวัด ที่เน้นบริบท ศักยภาพ และขีดความสามารถของแต่ละจังหวัด ตลอดจนการดำเนินการตามแผนอย่างเข้มแข็ง ต่อเนื่องต่อไป ซึ่งเชื่อว่าบนความแตกต่างของบริบทจังหวัด จะทำให้มีแผนการจัดการศึกษาที่หลากหลาย แต่ตอบโจทย์การพัฒนาของจังหวัดได้เป็นอย่างดี



  • ความปลอดภัยในสถานศึกษา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญ โดยบทเรียนจากเหตุการณ์ต่างๆ ในอดีต เป็นความรับผิดชอบของกระทรวงศึกษาธิการที่จะต้องป้องกัน แก้ไข ปรับปรุงไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีได้มอบกระทรวงศึกษาธิการดำเนินการทบทวนมาตรฐานความปลอดภัยในสถานศึกษาของนักเรียนนักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำมาตรการความปลอดภัย เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วจะได้ประกาศให้ทราบอย่างทั่วถึงกัน



  • การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้กำหนดและดำเนินการตามมาตรการประกันโอกาส ประกันคุณภาพ และประสิทธิภาพแล้ว จึงขอให้ทุกองค์กรหลักร่วมดำเนินการไปพร้อมกัน ทั้งอาชีวศึกษา อุดมศึกษา การศึกษาเอกชน ตลอดจนการศึกษาตามอัธยาศัย เช่น การแก้ปัญหาเด็กตกหล่น-ออกกลางคัน เป็นต้น



  • การแก้ไขปัญหาอ่านไม่คล่องเขียนไม่คล่อง  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้มอบแนวทางการยกระดับการเรียนภาษาไทย จบ ป.1 ว่า ต้องอ่านคล่อง-เขียนคล่อง-เข้าใจสิ่งที่อ่าน ซึ่งในการดำเนินงานในปีการศึกษา 2558 พบว่ายังมีนักเรียน ป.1 บางส่วนที่ยังอ่านไม่คล่อง จึงมอบหมายให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมหารือระหว่าง สพฐ. สถาบันภาษาไทย และศึกษานิเทศก์ เพื่อยกระดับภาษาไทยของนักเรียนเป็นรายบุคคล รายโรงเรียน และรายเขตพื้นที่การศึกษา เพื่อให้การแก้ไขปัญหามีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว



  • โครงการสานพลังประชารัฐ  ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ซึ่งในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการมีความเกี่ยวข้องกับ 2 โครงการที่มีความก้าวหน้าอย่างมาก คือ โครงการโรงเรียนประชารัฐ และทวิภาคีอาชีวศึกษา จึงขอให้ กศจ.ศึกษาแผนงานตามโครงการดังกล่าว เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานในระดับจังหวัดได้อย่างสอดคล้องกลมกลืนต่อไป


รมช.ศึกษาธิการ กล่าวเชิญชวน กศจ. ช่วยกันทำงานอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ เพื่อเป็นการทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 ด้วย



นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กล่าวถึงความเป็นมาของการจัดประชุมสัมมนาว่า ตามที่คณะหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งในการปฏิรูปการขยายราชการในภูมิภาค ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงการบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการในส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะคณะกรรมการ ซึ่งเป็นองค์ประกอบคณะบุคคลทำหน้าที่ในการจัดการศึกษาในระดับต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปด้วย


ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติงานตามคำสั่งดังกล่าวบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ สำนักงาน ก.ค.ศ.จึงได้จัดประชุมสัมมนาการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ 4 ภูมิภาค ซึ่งการประชุมครั้งนี้มี กศจ. 14 จังหวัดภาคใต้ รวม 308 คน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีการทำงานเชื่อมโยงระหว่างส่วนกลางและส่วนภูมิภาคในการบูรณาการในแต่ละจังหวัดให้มีทิศทางและเป้าหมายเดียวกัน รวมทั้งให้ กศจ. รับทราบกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และแนวทางการปฏิบัติราชการต่างๆ เพื่อส่งเสริมหลักคิด เพื่อความรู้ความเข้าใจและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงานใน กศจ.



นวรัตน์ รามสูต
บัลลังก์ โรหิตเสถียร
สรุป/รายงาน
นวรัตน์ รามสูต : ถ่ายภาพ
1
2/6/2559