
นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่าแม้ประเทศกำลังอยู่ในช่วงวิกฤตเช่นนี้ แต่ก็มักจะมีโอกาสและความดีงามเกิดขึ้นเสมอ โดยเฉพาะในวงการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หรือ กศน. ซึ่งปฏิบัติงานใกล้ชิดประชาชนอยู่ในชุมชน หมู่บ้าน และพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทยอยู่แล้ว โดย กศน.ในทุกภูมิภาคได้นำแนวทางของตนไปสู่การปฏิบัติ ในการระดมพลังความร่วมมือร่วมใจเพื่อให้การดูแลและช่วยเหลือประชาชน ไม่ว่าจะเป็น การให้ความรู้ข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา 2019 การปฏิบัติตนและดูแลสุขอนามัย การสอนทำหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือที่ถูกสุขลักษณะ ในรูปแบบสื่อออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้ประชาชนสามารถทำใช้เองได้ที่บ้าน และที่สำคัญคือ การช่วยกันผลิตหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ แจกจ่ายให้กับประชาชน พระภิกษุสงฆ์ เจ้าหน้าที่ และผู้สัญจรไปมาในพื้นที่ของตนเอง
“ได้มอบแนวทางให้ กศน.ดำเนินงานในแต่ละพื้นที่อย่างเต็มศักยภาพ โดยใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ถูกสุขลักษณะและหาได้ในพื้นที่ ภายใต้การประสานความร่วมมือเพื่อขอคำปรึกษาและข้อแนะนำจากสาธารณสุขจังหวัด เพื่อนำหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ ไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งประชาชนที่ไม่พร้อมทำใช้เอง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เป็นต้น เพราะเชื่อว่าในสถานการณ์เช่นนี้ วัสดุอุปกรณ์อาจจะหาซื้อได้ยาก และเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน หาก กศน.ช่วยเหลืออะไรได้ ก็ให้พยายามทำอย่างเต็มที่ เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน และเป็นการปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาด ของรัฐบาลและกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้รับรายงานความร่วมมือร่วมใจของ กศน.จากทั่วทุกภูมิภาค จึงขอแสดงความชื่นชมในความทุ่มเทและพลังความรักความสามัคคี ที่คอยห่วงใยดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น สำนักงาน กศน.จังหวัดอุบลราชธานี และคณะครู กศน.อำเภอวารินชำราบ จัดทำหน้ากากอนามัย เพื่อถวายแด่พระภิกษุและสามเณร วัดประชาพิทักษ์ (วัดบ้านกุดเป่ง) และวัดไชยมงคล ตลอดจนแจกจ่ายผู้เดินทางที่สถานีรถไฟอุบลราชธานี, ลูกเสือ กศน.อำเภอเมืองแพร่ ร่วมกับจิตอาสาคนแพร่ ผลิตผ้าหน้ากาก M-1 (หน้ากาก 5 ชั้น) และหน้ากากอนามัย 3 ชั้น (ได้รับการรับรองจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์) โดยได้รับการสนับสนุนแบบหน้ากาก วัสดุ และจักรเย็บผ้า จากมูลนิธิส่งเสริมการลูกเสือแห่งประเทศไทย เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนผู้ด้อยโอกาสในจังหวัดแพร่ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในเขตภาคเหนือ และเตรียมเร่งผลิตเพิ่มเติมให้กับเจ้าหน้าสถานทูตไทยในต่างประเทศด้วย นอกจากนี้ สำนักงาน กศน.จังหวัดสมุทรสาคร โดย กศน.อำเภอกระทุ่มแบน และ กศน.ตำบลท่าเสา ร่วมผลิตหน้ากากอนามัยมอบให้กับฝ่ายปกครอง เพื่อนำไปแจกจ่ายประชาชนในอำเภอกระทุ่มแบน เช่นเดียวกับที่ สำนักงาน กศน.จังหวัดกาญจนบุรี โดย กศน.อำเภอเมืองกาญจนบุรี รวมทั้งสำนักงาน กศน.ในพื้นที่ภาคใต้ ได้แก่ สำนักงาน กศน.จังหวัดยะลา, กศน.อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช และ กศน.อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดทำหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือนำไปช่วยเหลือพระภิกษุสงฆ์และประชาชน เพื่อใช้ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส เป็นต้น
นอกจากนี้ เชื่อว่ายังมีสำนักงาน กศน.อีกหลาย ๆ แห่ง ที่ยังคงปฏิบัติงานเพื่อดูแลประชาชนทั่วประเทศ รัฐมนตรีคนนี้จึงขอแสดงความขอบคุณพลังชาว กศน.ทุกคนอีกครั้ง และขอให้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ต่อไป เช่นเดียวกับรัฐมนตรี ที่แม้จะต้องทำงานในช่วง Social distancing ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม แต่ยังคงปฏิบัติงาน พร้อมติดตามข้อมูลข่าวสารและการทำงานของหน่วยงานที่รับผิดชอบทางสื่อต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง จึงขอทุกคนดูแลรักษาสุขภาพตนเอง และร่วมมือร่วมใจหยุดพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ ด้วย เพื่อนำพาประเทศไทยฝ่าวิกฤต COVID-19 ไปด้วยกัน” รมช.ศึกษาธิการ
นวรัตน์ รามสูต: สรุป/เรียบเรียง
เครือข่าย PR.กศน.: ภาพถ่าย
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สร.ศธ.: รายงาน
24/3/2563