
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 เวลา 15.30 น. คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับมอบหมายจาก นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธานการประชุมสภาการศึกษา ครั้งที่ 2/2563 โดยมีนายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการสภาการศึกษา พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา และคณะกรรมการสภาการศึกษา เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมกำแหง พลางกูร สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า เนื่องจากเหตุการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทำให้มีวาระที่จะต้องประชุมจำเป็นจริง ๆ และการประชุมนี้จำเป็นต้องมีกรรมการอย่างน้อย 1 ใน 3 ของคณะกรรมการทั้งหมดอยู่ในห้องประชุม จึงได้จัดการประชุมแบบออนไลน์ หรือ Teleconference อีกด้วย โดยมีคณะกรรมการทั้งที่อยู่ในห้องประชุม และอยู่ที่บ้านหรือที่ทำงานร่วมประชุมไปพร้อม ๆ กัน เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงโอกาสอย่างนี้ต้องช่วยกันและหากมีอะไรเร่งด่วนต้องรีบนำเสนอ
ที่ประชุมได้พิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสภาการศึกษา เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 20 ปี ของประเทศ และสอดคล้องกับนโยบายแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ทั้ง 7 ด้าน ซึ่งที่ประชุมได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการหารือกันอย่างกว้างขวางถึงเป้าหมายของสภาการศึกษาในอีก 2-3 ปีข้างหน้า คือ ปีพุทธศักราช 2565 ว่าจะนำพาการศึกษาของไทยไปทิศทางใด และมีมติให้มีคณะอนุกรรมการ 7 ด้าน เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปการศึกษา โดยให้เลขาธิการสภาการศึกษาไปตั้งรายชื่อคณะอนุกรรมการทุก ๆ คณะมาเสนอคณะกรรมการในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนหน้า เนื่องจากเป็นวาระสำคัญและเร่งด่วนของการศึกษา
อีกประการหนึ่งจะมีวาระที่เกี่ยวกับการตั้งคณะอนุกรรมการสภาการศึกษาเป็นการเฉพาะกิจ เพื่อเร่งรัดให้การปฏิรูปการศึกษาที่มีคณะกรรมการอิสระได้ทำไว้และรับฟังความคิดเห็นแล้วสามารถที่จะออกเป็น พ.ร.บ. ปฏิรูปการศึกษาได้เร็วและครบถ้วน จากที่รวบรวมความคิดเห็นทั้งหมดมาครั้งนี้ตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อที่จะเร่งรัดและมองให้รอบด้านเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษาให้ครบถ้วนให้ทันกาลเวลาด้วย
นอกจากนี้ คุณหญิงกัลยา ยังกล่าวด้วยว่า ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อยากจะส่งเสียง ส่งกำลังใจไปให้กับคณะแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์อย่างมาก โดยเฉพาะ ศธ. เราดูแลประชากรเป็นจำนวนมากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ฉะนั้นทาง ศธ. พร้อมให้ความร่วมมือในทุกๆ ด้านและให้กำลังใจกับทุกคนในประเทศไทยที่ช่วยกันไปพร้อมๆ กัน โดยการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ”
ณรีรัตน์ บุญหลัง: สรุป/เรียบเรียง
ทิพย์สุดา ศรีษะแก้ว: ถ่ายภาพ
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สร.ศธ.: รายงาน
28/3/2563