ตรวจเยี่ยม รร.ร่วมพัฒนา

เมื่อวันจันทร์ที่ 3 กันยายน 2561 ศาสตราจารย์คลินิก นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนในโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School) ที่โรงเรียนวัดถนนกะเพรา อำเภอแกลง จังหวัดระยอง และโรงเรียนวัดบางกอบัว (ขลิบราษฎร์บุรณะ) อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

  • ที่โรงเรียนวัดถนนกะเพรา อำเภอแกลง จังหวัดระยอง

ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานในโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School) ณ โรงเรียนวัดถนนกะเพรา อำเภอแกลง จังหวัดระยอง โดยนายปิติพันธ์ เทพปฎิมากรณ์ ผู้แทนประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และคณะทำงาน, นายสนิท แย้มเกษร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, เรือโทศตวรรษ อนันตกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง, ตลอดจนผู้บริหารกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารระดับจังหวัด ผู้อำนวยการโรงเรียน น.ส.ปวีณา พุ่มพวง คณะครู ผู้ปกครอง นักเรียน ตลอดจนผู้นำชุมชน ให้การต้อนรับและประชุมหารือร่วมกันเพื่อสร้างความเข้าใจสู่โรงเรียน

ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า โครงการ Partnership School เป็นโครงการที่ต่อยอดมาจากโรงเรียนสานพลังประชารัฐ ซึ่งสอดคล้องตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 “รัฐเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา” แต่ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ยังขาดพลังการขับเคลื่อน จึงดำเนินการแสวงหาความร่วมมือจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครอง ประชาชน ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนโรงเรียน 50 แห่งแรกของประเทศ ไปสู่เป้าหมายทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมจัดการศึกษา โดยเฉพาะภาคเอกชนที่ต้องการแนวคิดและวิธีการทำงานที่รองรับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้ดี มาร่วมสร้างโรงเรียนเพื่อเตรียมอนาคตให้กับลูกหลานของเรา

จากการรับฟังรายงานการดำเนินงานของโรงเรียน ต้องขอชื่นชมกับความสำเร็จและความก้าวหน้าในหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบหลักสูตรที่มีความเชื่อมโยงกับบริบทเชิงพื้นที่ โดยเน้นทั้งวิชาการและวิชาชีพ พร้อมมีแหล่งเรียนรู้ที่โดดเด่น ทั้งห้องเรียนอากาศยาน การทำเกษตรกรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และแหล่งเรียนรู้ตามธรรมชาติในชุมชน เป็นต้น พร้อมปรับกระบวนการเรียนการสอนด้วยการปฏิบัติจริงนอกห้องเรียนในหลากหลายวิชา ส่งผลต่อการเปลี่ยนกระบวนการเรียนการสอน ตลอดจนการรับรู้และวิธีการทำงาน ถือว่าโรงเรียนได้ตั้งวัตถุประสงค์ในการจัดการความรู้และเตรียมอาชีพให้กับลูกหลานในวันข้างหน้าเป็นอย่างดี

นายปิติพันธ์ เทพปฎิมากรณ์ ผู้แทนประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.ได้ให้การสนับสนุนโรงเรียนสานพลังประชารัฐกว่า 82 แห่ง เพื่อยกระดับมาตรฐานครูให้ดีขึ้น ทั้งภาษาอังกฤษ STEM ศีลธรรมจริยธรรม การพัฒนาตนเองและสภาพแวดล้อมอื่น ๆ จากนั้นขยายความร่วมมือสู่การสนับสนุนโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา จำนวน 5 โรงเรียน เป็นการเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ แต่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องระยะยาว เพราะเข้าใจดีว่า เรื่องของการศึกษาต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล และการเริ่มต้นที่ดีก็จะทำให้ได้รูปแบบและทิศทางในการขยายผลในระยะยาว

โรงเรียนวัดถนนกะเพรา ถือว่ามีความโดดเด่นของ “ชุมชน” ที่มีความเข้มแข็งในการร่วมพัฒนาโรงเรียน โดยทาง ปตท. ได้ส่งบุคลากรเข้ามาร่วมทำงาน ร่วมคิด ร่วมวางแผนเพื่อกำหนดทิศทาง และสิ่งหนึ่งที่ต้องการเห็นคือความร่วมมือจากชุมชนเป็นหลัก ผสานกับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน ที่จะช่วยกันสร้างภาพความสำเร็จให้เกิดขึ้นได้ไม่ยากจนเกินไป

เรือโทศตวรรษ อนันตกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวต้อนรับว่า มีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่โรงเรียนในพื้นที่บ้านเนินฆ้อน ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา ซึ่งถือว่าโรงเรียนวัดถนนกะเพราเป็นโรงเรียนเล็ก ๆ ที่มีความโดดเด่นทั้งทางวิชาการ วิชาชีพ และตั้งอยู่ท่ามกลางความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ตลอดจนแหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ จึงเป็นโอกาสที่ดีอีกครั้ง ที่ทุกภาคส่วนจะได้มาช่วยพัฒนาการศึกษา ส่งผลต่อการพัฒนาชุมชนให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ที่เข้ามาช่วยพัฒนาการศึกษาในพื้นที่จังหวัดระยอง

นางสาวปวีณา พุ่มพวง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดถนนกะเพรา กล่าวว่า โรงเรียนวัดถนนกะเพรา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2482 ปัจจุบันเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 2 มีนักเรียน รวม 143 คน เป็นนักเรียนไทย 113 คน และนักเรียนกัมพูชา 40 คน มีผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษา 9 คน โดยจัดการเรียนการสอนเน้นวิชาการ ทั้งในวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี พร้อมวิชาชีพตามความถนัดและสนใจของนักเรียน อาทิ ฝึกอาชีพอากาศยาน การทำเครื่องบินร่อน, สร้างรายได้จากการทำไข่เค็ม สลัดโรล เบเกอรี่ งานปั้นดินน้ำมัน การเกษตรกรรมตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีความมุ่งมั่นให้นักเรียนมีวิถีความเป็นไทย ภายใต้การสนับสนุนของชุมชนอย่างเข้มแข็ง ในรูปแบบบวร (บ้าน วัด โรงเรียน)


  • ที่โรงเรียนวัดบางกอบัว (ขลิบราษฎร์บุรณะ) อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

จากนั้นในช่วงบ่าย ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของโรงเรียนวัดบางกอบัว (ขลิบราษฎร์บุรณะ) อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร กล่าวว่า ขอให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจที่ได้เข้าร่วมโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา เป็นหนึ่งใน 50 โรงเรียนแรก ที่จะได้ร่วมปฏิรูปการศึกษา และพัฒนาเป็นต้นแบบให้โรงเรียนอื่น ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งการตั้งเป้าหมายเพียง 50 แห่ง อาจจะเป็นจำนวนน้อย แต่หากจะพิจารณาตามแนวคิดการพัฒนาแต่ละโรงเรียนให้มีเป้าหมายตอบโจทย์บริบทของพื้นที่ เชื่อมโยงกับชุมชนจริง ๆ และรองรับการเปลี่ยนแปลงของระบบเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี จะทำให้ได้ต้นแบบที่มีความเข้มแข็ง ก่อนที่จะขยายไปสู่โรงเรียนอื่นอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในส่วนของระบบบริหารจัดการ กระทรวงศึกษาธิการมีความพยายามปรับให้เป็นระบบพิเศษ โดยให้โรงเรียนในโครงการขึ้นตรงกับเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ภายใต้การสนับสนุนดูแลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและศึกษาธิการจังหวัดเช่นเดิม พร้อมปลดล็อคกฎระเบียบเพื่อให้เกิดความคล่องตัว และมุ่งผลสัมฤทธิ์การศึกษาอย่างจริงจัง

สิ่งที่คาดหวังคือ การปรับตัวของผู้บริหารและครู ด้วยกระบวนการทำงานและการเรียนแบบใหม่ นอกจากจะต้องเน้นการเรียนด้วยการตั้งคำถาม และการปฏิบัติจริงแล้ว รูปแบบการเรียนแบบไม่เป็นทางการก็เป็นสิ่งสำคัญ ต่อการปรับตัวรองรับการเรียนรู้แบบออนไลน์ ผ่านสื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมความต้องการเรียนรู้ด้วยตนเองของนักเรียนในเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามความสนใจ โดยไม่ต้องใช้เวลาเรียนแบบเป็นทางการเรียนถึง 4 ปี เพราะในเรื่องของความรู้ในปัจจุบันสามารถเรียนรู้ได้ทันกันหมดแล้ว เด็กไม่จำเป็นต้องมาเรียนรู้กับครูในห้องเรียนทั้งหมด

ดังนั้น การปรับตัวในเรื่องของจัดการเรียนการสอนให้ทันยุคทันสมัย จะช่วยเตรียมคนของเราให้เติบโตและอยู่รอดในโลกอนาคตได้ ในส่วนของโรงเรียนอื่น ๆ ในพื้นที่นี้ ที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการ ก็สามารถนำแนวคิดของโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนาไปปรับปรุงพัฒนาไปพลางก่อน เพื่อเตรียมความพร้อมผลักดันตัวเองเข้าร่วมโครงการในปีต่อไป

นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า จังหวัดสมุทรปราการและโรงเรียนจะพยายามผลักดันให้เกิดการปรับตัวให้เข้ากับสภาพเศรษฐกิจ และสังคมในปัจจุบัน พร้อมนำหลักคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ออนไลน์มาปรับใช้ให้เหมาะกับศักยภาพของเด็กในบริบทต่าง ๆ ด้วย ซึ่งผู้บริหารสถานศึกษาถือเป็นผู้นำสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง

โรงเรียนวัดบางกอบัว ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 6 ตุลาคม 2476 ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ถนนเพชรหึงษ์ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จัดการศึกษาระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนต้น โดยเน้นห้องเรียนเป็นฐาน หน้างานคือผู้เรียน จัดกระบวนการเรียนการสอนครอบคลุม ด้านวิชาการ อ่านออกเขียนได้ คิดคำนวณเป็น, ด้านวิชาชีพ ค้นพบตัวตนตามความถนัดและสนใจ มีฝีมืองานช่าง การเกษตร ช่างตัดผม สกรีนเสื้อ มัดย้อม ตลอดจนน้ำหมักชีวภาพ และด้านทักษะชีวิต เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา ทำความดีด้วยหัวใจ เข้าค่ายลูกเสือ เป็นต้น


Written by นวรัตน์ รามสูต
Photo Credit
ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี
Rewriter นวรัตน์ รามสูต
Editor บัลลังก์ โรหิตเสถียร