ตรวจเยี่ยม Partnership School กาฬสินธุ์

ศาสตราจารย์คลินิก นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนในโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน 2561 ที่โรงเรียนแก้วเสด็จพิทยาคม อำเภอสมเด็จ และวิทยาลัยการอาชีพคำม่วง อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีนายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด และนายบุญญาเกียรติ เนตรจรัสแสง ประธานที่ปรึกษา บริษัท อุตสาหกรรมน้ำตาลอีสาน จำกัด เป็นผู้สนับสนุนภาคเอกชน, พร้อมผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารระดับจังหวัด ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู ผู้ปกครอง นักเรียน ตลอดจนผู้นำชุมชน ให้การต้อนรับและร่วมรับฟังนโยบาย

● ที่โรงเรียนแก้วเสด็จพิทยาคม อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์

ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนาประสบความสำเร็จ คือการที่โรงเรียนกำหนดเป้าหมายในการพัฒนานักเรียน เชื่อมโยงสู่การแก้ไขปัญหาชุมชนและสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิตกับคนทุกช่วงวัยในพื้นที่ ซึ่งทั้งหมดนี้ครูจะเป็นผู้ผลักดันสำคัญเพราะอยู่ใกล้ชิดเด็กมากที่สุด โดยครูอาจต้องปรับบทบาทเป็นการแนะนำ ให้คำปรึกษา หรือคอยตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง จนเด็กเกิดทักษะคิดเป็นวิเคราะห์ได้ในที่สุด

สิ่งสำคัญนอกจากการกระตุ้นให้เด็กคิดวิเคราะห์ได้แล้ว ครูต้องช่วยสร้างแรงบันดาลใจหรือสนับสนุนให้เด็กได้พัฒนาในสิ่งที่ชอบและถนัด สามารถสร้างสิ่งประดิษฐ์ใหม่ขึ้นมา ซึ่งแม้จะเป็นงานชิ้นเล็ก ๆ แต่หากได้รับการดูแลพัฒนาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ก็จะสามารถต่อยอดสิ่งประดิษฐ์ไปสู่นวัตกรรมที่เกิดประโยชน์ต่อชุมชนและพื้นที่ได้ พร้อมเชิญชวนมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยงและภาคเอกชนในพื้นที่ มาช่วยพัฒนาองค์ความรู้ องค์ประกอบสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ เพื่อสร้างมูลค่านำไปสู่เชิงพาณิชย์ต่อไป

ขอย้ำอีกครั้งว่า การจะทำให้เด็กเติบโตขึ้นมาเป็นคนที่ดีและมีคุณภาพ จะต้องได้รับการปลูกฝังการศึกษาตั้งแต่ระดับเล็ก ๆ ส่งต่อไปแต่ละระดับชั้นจนถึงระดับสูงสุดคืออุดมศึกษา ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินงานในหลายส่วนควบคู่กันไป เพื่อหล่อหลอมให้เด็กเติบโตเป็นกำลังคนที่สำคัญต่อการพัฒนาพื้นที่ ชุมชน และประเทศ พร้อมที่จะไปสร้างการเปลี่ยนแปลงในทุกที่ที่ไปอยู่

นางกุสุมาวดี พลเรืองทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนแก้วเสด็จพิทยาคม กล่าวรายงานว่าโรงเรียนแก้วเสด็จพิทยาคม เป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา สังกัด สพม. 24 จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 โดยมีนักเรียน 185 คน มีครูและบุคลากรทางการศึกษา รวม 15 คน ซึ่งโรงเรียนมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้เด็กมีความรู้ มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามเป้าหมายที่วางไว้ กล่าวคือ มีทักษะชีวิต มีทักษะอาชีพ เป็นคนดีของสังคม และรักถิ่นฐาน

ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือในการจัดการศึกษาเป็นอย่างดีจากชุมชน ผู้ปกครอง ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน รวมทั้งมหาวิทยาลัยสารคาม ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยงด้วย โดยได้วางแผนที่จะพัฒนาสถานศึกษาในปีการศึกษา 2562 ในหลายส่วน อาทิ ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา, ส่งเสริมการเรียนสองภาษา, พัฒนาแหล่งเรียนรู้ และมีความร่วมมือกับสถานประกอบการในการรับนักเรียนไปฝึกประสบการณ์วิชาชีพจากการปฏิบัติจริง เป็นต้น


● ที่วิทยาลัยการอาชีพคำม่วง อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์

ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ กล่าวแสดงความขอบคุณที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และตนให้ความสำคัญกับการผลิตกำลังคนอาชีวศึกษา แม้ว่าวิทยาลัยการอาชีพคำม่วงจะเป็นสถานศึกษาสังกัด สอศ. เพียงแห่งเดียวใน 50 สถานศึกษาแรกที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา แต่ก็เป็นความหวังในการพัฒนากำลังคนที่มีสมรรถนะสูง สำหรับอุตสาหกรรม NEW Growth Engine ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี และ Thailand 4.0 ตลอดจนตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่

ซึ่งต้องยอมรับว่า ขณะนี้ภาคอุตสาหกรรมใหญ่หลายแห่ง ได้มีการปรับตัวตามความก้าวของเทคโนโลยีไปไกลมากแล้ว บางแห่งนำเครื่องจักรและวิทยาการที่ทันสมัยเข้ามาใช้งานแทนคน ไม่ว่าจะหุ่นยนต์แขนกลอุตสาหกรรม ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI เป็นต้น ดังนั้น การจัดการเรียนการสอนของอาชีวศึกษา ก็ต้องเร่งปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน เพราะถือเป็นกระดูกสันหลังสำคัญของการสร้างศักยภาพการแข่งขันของประเทศ และเพื่อความอยู่รอดของลูกหลานในอนาคต พร้อมขอฝากถึงกระทรวงมหาดไทยทำความเข้าใจความเปลี่ยนแปลงนี้ถึงผู้ปฏิบัติงานที่ดูแลประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ และให้ศึกษาธิการจังหวัดเชื่อมโยงการทำงานในระดับจังหวัดให้เกิดประสิทธิผลและประสิทธิภาพ เพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขันด้านการศึกษาในภูมิภาคนี้ต่อไป


นายวาทิช ผ่านสำแดง ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพคำม่วง กล่าวรายงานว่า วิทยาลัยการอาชีพคำม่วงเป็นสถานศึกษาที่มีนักเรียนนักศึกษาเพียง 878 คน โดยส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งมีฐานะยากจน มีความขาดแคลน และอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ส่งผลต่อจำนวนนักเรียนออกกลางคันอย่างต่อเนื่อง แต่วิทยาลัยก็พยายามที่จะดำเนินงานร่วมกับภาคประชาชนในรูปแบบคณะกรรมการภาคีสี่ฝ่าย เพื่อพัฒนานักเรียนนักศึกษาให้มีความรู้และทักษะอาชีพ ที่จะสามารถสร้างอาชีพ มีรายได้ดูแลตัวเองและช่วยเหลือครอบครัวได้

นอกจากนี้ ที่ผ่านมายังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนในหลายส่วน อาทิ การสนับสนุนทุนการศึกษา การเรียนการสอนระบบทวิภาคี การพัฒนาหลักสูตรสาขาวิชาเทคนิคอุตสาหกรรมการผลิต การจัดหาครุภัณฑ์ ตลอดจนส่งวิทยากรมาช่วยพัฒนาด้านภาษา เป็นต้น


Written by นวรัตน์ รามสูต
Photo Credit
อิทธิพล รุ่งก่อน
Rewriter นวรัตน์ รามสูต
Editor บัลลังก์ โรหิตเสถียร