ติดตามงาน ศธ.ส่วนหน้า

พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เพื่อติดตามงานของกระทรวงศึกษาธิการ (ส่วนหน้า) และการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม 2560 ห้องประชุมอาคารกระทรวงศึกษาธิการ (ส่วนหน้า) ศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.) ภายในค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี



พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ กล่าวว่า จากการที่กระทรวงศึกษาธิการได้จัดงานมหกรรม “นวัตกรรมแห่งการเรียนรู้ คู่คุณธรรม นำสู่พัฒนาการศึกษา ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” เมื่อวันพุธที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย โดยได้รับเกียรติจาก พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน รวมทั้งเปิดอาคารกระทรวงศึกษาธิการ (ส่วนหน้า) แห่งนี้ พร้อมทั้งได้มอบนโยบายขับเคลื่อนการจัดการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีผู้บริหารและข้าราชการในพื้นที่เข้าร่วมงานกว่า 3,500 คนนั้น


การประชุมครั้งนี้ ได้รับทราบผลประเมินการจัดงานดังกล่าว ซึ่งพบว่าสังคมได้รับทราบและเข้าใจบทบาทการทำงานของ ศปบ.จชต. หรือ “กระทรวงศึกษาธิการ (ส่วนหน้า)” มากขึ้น ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่ให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ และนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้ดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์การศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) ซึ่งได้กำหนดเป็น 6 ยุทธศาสตร์ย่อย 14 เป้าหมายสำคัญ 55 ตัวชี้วัด 18 กลยุทธ์ และ 81 แนวทางย่อย เป็นแนวทางในการดำเนินงาน


อย่างไรก็ตาม แนวทางการขับเคลื่อนงานของกระทรวงศึกษาธิการ (ส่วนหน้า) จำเป็นจะต้องเร่งสร้างการรับรู้ ความเข้าใจต่อสาธารณชนในทุกขั้นตอนของการดำเนินงาน เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิตอย่างเป็นสุขในสังคมพหุวัฒนธรรม สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 ซึ่งการสร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้นในพื้นที่ เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก โดยจะต้องสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้เกิดขึ้นก่อน เมื่อเข้าใจแล้วความร่วมมือร่วมใจในการทำงานก็จะตามมา โดยที่ผ่านมาได้กำหนดช่องทาง (Media) ในการสร้างการรับรู้ผ่านช่องทางต่าง ๆ คือ Social Network สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุ สื่อโทรทัศน์ และเว็บไซต์ ที่ได้มีการกำหนดตัวบุคคลผู้รับผิดชอบ (Admin) ทุกช่องทางดังกล่าว พร้อมกำหนดทีมบริหารจัดการ (Control Unit) และทีมรายงานผลการดำเนินงาน (Project Reporter) ร่วมดูแลระบบงานการสร้างการรับรู้ ทั้งก่อนดำเนินการ ระหว่างดำเนินการ และหลังดำเนินการ ที่จะมีเครือข่ายทั้ง 63 หน่วยงานในพื้นที่ร่วมดำเนินงาน คือ สพฐ. 18 หน่วยงาน, กศน.5 หน่วยงาน, สช. 5 หน่วยงาน, สอศ. 18 หน่วยงาน, สกอ. 11 หน่วยงาน, ศธจ. 5 หน่วยงาน และ ศธภ. 1 หน่วยงาน



นอกจากนั้น จำเป็นจะต้องเร่งขับเคลื่อนการทำงานตามนโยบายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในการดำเนินงาน เช่น




  • โครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้  ขณะนี้มีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการสานฝันฯ จำนวน 8 แห่ง จนสามารถขยายผลเป็นโครงการห้องเรียนกีฬาทั่วทุกภูมิภาคอีก 8 แห่ง และในปีการศึกษาหน้าโครงการสานฝันฯ จะขยายผลเพิ่มไปยังโรงเรียนอีก 4 แห่ง ที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา, อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี, อ.จะแนะ และ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส



  • โครงการห้องเรียนอาชีพ (OBEC Career Program)  ซึ่งเริ่มต้นปีนี้เป็นปีแรกจำนวน 6 โรงเรียน ในพื้นที่โครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน (นราธิวาส ยะลา และปัตตานี) จำนวน 3 โรงเรียน คือ โรงเรียนเบตง “วีระราษฎร์ประสาน” จังหวัดยะลา, โรงเรียนเวียงสุวรรณวิทยาคม จังหวัดนราธิวาส, โรงเรียนราชมุนีรังสฤษฎ์ จังหวัดปัตตานี และจังหวัดในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (เชียงราย ตาก) อีก 3 โรงเรียน คือ โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ จังหวัดเชียงราย, โรงเรียนแม่จันวิทยาคม จังหวัดเชียงราย, โรงเรียนสรรพวิทยาคม จังหวัดตาก โดยในวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่โรงเรียนเบตง “วีระราษฎร์ประสาน” รวมทั้งศูนย์ฝึกอบรมวิชาชีพอำเภอสุคิริน สาขาวิทยาลัยสารพัดช่างนราธิวาส และโรงเรียนเวียงสุวรรณวิทยาคม เพื่อรับฟังปัญหาความต้องการและให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินงาน ซึ่งจากการลงพื้นที่ดังกล่าวทำให้เห็นความก้าวหน้าการจัดการเรียนสายอาชีพในโรงเรียนมัธยมศึกษา ที่จบแล้วได้ทั้งวุฒิ ม. 6 และ ปวช. รวมทั้งการฝึกอบรมอาชีพทั้งในระบบและนอกระบบ เพื่อมุ่งเน้นให้ผู้เรียนและประชาชนมีอาชีพ มีงานทำ สร้างรายได้ที่สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ รวมทั้งได้เห็นถึงคุณภาพของศูนย์ฝึกอบรมฯ ที่สุคิริน ที่จะผลักดันให้ยกฐานะเป็นวิทยาลัยการอาชีพสุคิริน ในโอกาสต่อไป



  • การดำเนินงานเกี่ยวกับทุนการศึกษา และการเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษา  ได้จัดให้มีทุนการศึกษาในหลากหลายรูปแบบตามความเหมาะสมกับผู้เรียนในแต่ละระดับและประเภทการศึกษา เพื่อช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษา ทั้งโดยทางตรง คือ การสูญเสียบิดามารดาจากเหตุการณ์ความไม่สงบ และโดยทางอ้อม คือ ความยากจน ความขาดแคลนทุนทรัพย์ และด้อยโอกาสต่าง ๆ ซึ่งยังมีอยู่จำนวนมาก คือ ทุนภูมิทายาท ทุนระดับอาชีวศึกษา ทุนอุดมศึกษา และทุนรายปีต่อเนื่องทายาทผู้ได้รับผลกระทบ โดยได้มีการมอบทุนดังกล่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี นอกจากนี้มีการมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาอาชีวศึกษาโครงการส่งเสริมทุนการศึกษา นักศึกษากลุ่มพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกิจกรรมค่ายนักศึกษาทุนประจำปีการศึกษา 2560 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา รวมทั้งจัดให้มีการประชุมสัมมนาการแนะแนวการศึกษาต่อ: ทางเลือกและเส้นทางอาชีพของเยาวชนชายแดนใต้ ที่จังหวัดสงขลา เพื่อให้ผู้บริหาร ครู และอาจารย์ ได้มีโอกาสรับฟังข้อมูล ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเส้นทางการศึกษา สาขาวิชา และทางเลือกศึกษาในระดับอุดมศึกษาแนวใหม่ ระหว่างวันที่ 29-30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ณ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา



  • การสรุปรวบรวมข้อมูลและผลการดำเนินงานกลุ่มภารกิจงานที่ 4 (การศึกษา ศาสนา และศิลปวัฒนธรรม) ต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) หลังจากสิ้นปีงบประมาณ


พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ได้เน้นการทำงานของกระทรวงศึกษาธิการ (ส่วนหน้า) ในฐานะตัวแทนของกระทรวงศึกษาธิการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนและพัฒนาการศึกษา เพื่อให้เยาวชนได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม รวมทั้งจัดการศึกษาให้กับคนในทุกช่วงวัยเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ตลอดจนสร้างความเสมอภาคในการจัดการศึกษาอย่างทั่วถึงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้นำระบบการศึกษาที่เข้มแข็งเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งเสริมให้เกิดสันติสุขอย่างยั่งยืน ถือเป็นการทำงานที่สอดคล้องกับนโยบายของ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ที่เน้นบริหารจัดการโดยเริ่มจากล่างขึ้นบน (Bottom Up) ซึ่งก็คือการรับฟังสภาพปัญหาในระดับพื้นที่ แทนที่จะสั่งการจากส่วนกลางลงมาอีกด้วย




อนึ่ง การประชุมครั้งนี้มีผู้บริหาร และบุคลากรที่เกี่ยวข้องจากส่วนกลางและทุกสังกัดของกระทรวงศึกษาธิการในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วมประชุม อาทิ นายอดินันท์ ปากบารา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี, พล.ต.ต.ธัมมศักดิ์ วาสะศิริ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายปราโมทย์ แก้วสุข ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, นายบุญรักษ์ ยอดเพชร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปบ.จชต.), นายชลำ อรรถธรรม ผู้อำนวยการสำนักติดตามและประเมินผล สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), ศึกษาธิการจังหวัด, ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา/มัธยมศึกษา, นักประชาสัมพันธ์, ผู้แทนจากหน่วยงานทุกสังกัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ฯลฯ



บัลลังก์ โรหิตเสถียร: สรุป/รายงาน
ขอบคุณภาพถ่าย: นายพงศ์สัณห์ อุ่นอก สพป.ปัตตานี เขต 1
3/8/2560