ติดตามโครงการห้องเรียนกีฬา จ.มหาสารคาม

รมช.ศธ.”สุรเชษฐ์” ติดตามการดำเนินงานโครงการห้องเรียนกีฬา ที่มหาสารคาม


จังหวัดมหาสารคาม – เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2559 พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย พล.อ.สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานโครงการห้องเรียนกีฬา ณ โรงเรียนสารคามพิทยาคม อำเภอเมืองมหาสารคาม

รมช. ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ลงนามความร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อเป็นการนำการกีฬาเข้าสู่ระบบการศึกษา และเป็นการพัฒนาศักยภาพของเด็กไทยที่มีความเป็นเลิศด้านกีฬา ตามดำริของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาและโภชนาการเป็นฐาน เน้นการพัฒนาร่างกายให้สามารถแข่งกับต่างประเทศได้ และนอกจากนักเรียนกีฬาจะมีพัฒนาทางด้านร่างกายดีแล้ว ยังสามารถประกอบอาชีพด้านการกีฬาได้ เช่น การเป็นนักกีฬาอาชีพ กรรมการตัดสินกีฬา ผู้ฝึกสอนกีฬา อีกทั้งยังมีความรู้และทักษะในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่เกี่ยวกับกีฬาได้อีกด้วย

การดำเนินโครงการดังกล่าว ได้เริ่มนำร่อง “ห้องเรียนกีฬา” ใน 3 โรงเรียนทั่วประเทศ ได้แก่ ภาคเหนือ ที่โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม จังหวัดสุโขทัย, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่โรงเรียนสารคามพิทยาคม จังหวัดมหาสารคาม, ภาคใต้ ที่โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย กระบี่ จังหวัดกระบี่ ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559

โดยเริ่มจากการคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนใน 2 ประเภทกีฬา คือ ฟุตบอล (ชาย) และ วอลเลย์บอล (หญิง) ซึ่งโรงเรียนทั้ง 3 แห่งได้เปิดรับสมัครนักเรียนที่กำลังเรียนชั้น ม.4 ที่สนใจสมัครสอบเข้าเรียนในโปรแกรมวิทยาศาสตร์-กีฬา และศิลป์-กีฬา โดยผู้ฝึกสอนที่มีประสบการณ์ระดับชาติและนานาชาติ จากสมาคมกีฬาที่เกี่ยวข้อง และเรียนรู้วิทยาศาสตร์การกีฬาจากเครื่องมือที่ทันสมัยของสถาบันการพลศึกษา

จากการตรวจเยี่ยมโครงการห้องเรียนกีฬา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่โรงเรียนสารคามพิทยาคม รมช.ศึกษาธิการ ได้กล่าวฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ดังนี้

  • ขอให้วางแผนรับนักเรียนรุ่นต่อไปในปีการศึกษา 2560 โดยให้คงจำนวนไว้เท่าเดิมคือ 80 คน รวมทั้งประเภทกีฬาแบบเดิม คือ ฟุตบอลชายและวอลเลย์บอลหญิงไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม ขอให้สำรวจความพึงพอใจจากผู้ปกครองและประชาชนเพิ่มเติมเพื่อการวางแผนในอนาคต พร้อมทั้งขอให้สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตมหาสารคาม ร่วมวางแผนอย่างใกล้ชิดและเตรียมการล่วงหน้าเรื่องที่พักและด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาด้วย

  • การจัดกิจกรรมเสริมทักษะในช่วงปิดเทอม โดยขอให้โรงเรียนวางแผนร่วมกับเครือข่ายทั้ง 3 โรงเรียน คือ โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัยกระบี่ และโรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม เพื่อให้นักเรียนได้ทำกิจกรรมนอกสถานที่ร่วมกัน  เช่น การเยี่ยมเยือนสถานที่ต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การเปิดโลกทัศน์ การได้มีโอกาสพบปะเพื่อนฝูงและร่วมทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ โดยมอบให้ สพฐ. จัดห้วงระยะเวลาตามสมควร เพื่อให้เด็กได้มีเวลาพักอยู่กับผู้ปกครองด้วย

  • การสนับสนุนความร่วมมือจากคลินิกกีฬาเคลื่อนที่ ซึ่งจะมีอดีตผู้ฝึกสอนและนักกีฬาทีมชาติ อาทิ รังสิวุฒิ ชโลปถัมภ์, พิชัย คงศรี, ปริม อินทวงศ์ ฯลฯ หมุนเวียนกันมาที่โรงเรียนเครือข่ายห้องเรียนกีฬาทั้ง 3 แห่งอย่างน้อยเดือนละครั้ง จึงขอให้โรงเรียนเครือข่ายห้องเรียนกีฬาร่วมกันประสานงานในเรื่องดังกล่าวด้วย

  • ให้นักเรียนเน้นเรื่องเรียนเป็นเรื่องหลัก แม้ว่าจะเก่งกีฬามากมาย แต่หากไม่เรียนไม่จบ ก็จะไปไม่ถึงสิ่งที่โครงการได้กำหนดไว้ตามวัตถุประสงค์ แต่ก็ไม่ได้กังวลในเรื่องนี้มากนัก เพราะเชื่อว่าโรงเรียนสารคามพิทยาคมมีมาตรฐานสูงที่สามารถดูแลเด็กด้านการเรียนการสอนได้ดี ควบคู่กับการพัฒนาด้านกีฬาไปพร้อม ๆ กัน

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า การดำเนินงานห้องเรียนกีฬา มุ่งเน้นความเป็นเลิศด้านกีฬา และพัฒนานักเรียนให้มีความแข็งแกร่ง สามารถแข่งขันได้กับนักกีฬาชาวต่างชาติที่ตัวใหญ่ ๆ จึงฝากให้สถาบันการพลศึกษา เน้นทางด้าน วิทยาศาสตร์การกีฬาและโภชนาการเป็นฐานให้มากขึ้น หลังจากนี้คาดว่าจะเปิดห้องเรียนกีฬาเพิ่มในภาคกลาง ที่จังหวัดสมุทรสาครต่อไป


อรพรรณ ฤทธิ์มั่น, บัลลังก์ โรหิตเสถียร: สรุป/รายงาน
อรพรรณ ฤทธิ์มั่น: ถ่ายภาพ
ขอบคุณภาพถ่าย: คณะทำงาน รมช.ศึกษาธิการ
11/11/2559