ประชุมกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 8/2559

                   รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วมประชุมกระทรวงศึกษาธิการครั้งที่ 8/2559 โดยมีพลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน ร่วมด้วยผู้บริหารองค์กรหลัก หน่วยงานในกำกับ และคณะทำงาน เมื่อวันพุธที่ 24 สิงหาคม 2559 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ

 

 

ก่อนเริ่มการประชุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ให้แก่นายสุริยนต์ กาญจนศิลป์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ในฐานะบุคคลผู้สนับสนุนงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประเภทห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” โดยผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้อนุมัติงบพัฒนาจังหวัดประจำปี 2559 จำนวน 8 ล้านบาท ในการก่อสร้างอาคารห้องสมุด และมีแผนระดมทุนจากภาครัฐและเอกชน จำนวน 100 ทุน สำหรับตกแต่งและจัดนิทรรศการ เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้ประชาชนในจังหวัดระนอง มีแหล่งการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ สามารถนำความรู้ไปพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกล่าวขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดระนองที่เห็นความสำคัญของการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับประชาชน พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จัดทำแผนส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการห้องสมุดและต่อยอดการคิดวิเคราะห์จากการอ่านด้วย

 

 

จากนั้นที่ประชุมได้รายงานผลการเร่งรัดติดตามการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของกระทรวงศึกษาธิการ ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2558 – 19 สิงหาคม 2559 ในภาพรวมการเบิกจ่ายงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการเป็นไปตามเป้าหมายมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาล

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ได้นำเสนอผลโครงการจัดค่ายพรีโอลิมปิกวิชาการสำหรับนักเรียนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา ซึ่งการอบรมมีทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ได้แก่ วิชาฟิสิกส์ วิชาเคมี วิชาชีววิทยา วิชาคณิตศาสตร์  ทักษะชีวิตและการทำงานเป็นทีม เมื่อวันที่ 25 เมษายน – 4 พฤษภาคม และวันที่ 24 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา รวมจำนวนนักเรียนที่เข้าค่ายฯ ทั้งสิ้น 605 คน โดยได้รับผลการตอบรับจากนักเรียนเป็นอย่างดี และอยากให้มีโครงการแบบนี้ในปีต่อไป นอกจากนี้ยังได้นำเสนอผลการส่งเสริมและพัฒนาทักษะวิชาชีพนักเรียนโรงเรียนนอกระบบสู่สากล โดยจัดการแข่งขันทักษะวิชาชีพ 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทวิชาดนตรี ประเภทวิชาศิลปศึกษา(วาดภาพระบายสี) และประเภทวิชาเสริมสวยรวมถึงส่งเสริมการแข่งขันในระดับสากล เพื่อเป็นการรองรับการแข่งขันทักษะวิชาชีพในระดับที่สูงขึ้น ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคมต่อไป

 

 

 

ด้านสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รายงานความคืบหน้าการจัดงาน “วันที่ระลึกสากลแห่งการรู้หนังสือ” ประจำปี 2559 ซึ่งประเทศสมาชิก UNESCO ได้จัดงานเฉลิมฉลองทั่วโลก เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี สำหรับประเทศไทยกำหนดจัดงานขึ้นในวันที่ 8 กันยายน 2559 ส่วนกลางใช้สถานที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ ส่วนภูมิภาคนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่ สำหรับ Theme ของปีนี้ คือ Reading the Past, Writing the Future สนับสนุนให้รู้หนังสือถึงการคิดวิเคราะห์ รู้จริง สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน โดยกิจกรรมในงานจะมีการอ่านสารของผู้อำนวยการใหญ่ UNESCO, นายกรัฐมนตรี พิธีปล่อยคาราวานหนังสือ การแสดงปาฐกถาพิเศษ และมีการถ่ายทอดสดทาง ETV ตลอดงาน

ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)รายงานผลการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันคณิตศาสตร์ระหว่างประเทศ Thailand International Mathematics Competition 2016 ระหว่างวันที่ 14 – 20 สิงหาคม 2559 ณ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบหมายให้ สพฐ. วิเคราะห์ภาพรวมผลการแข่งขันของนักเรียนระดับประถมศึกษา ที่ยังอ่อนอยู่ว่าเกิดสาเหตุใด ใช้หลักเกณฑ์ใดในการคัดเลือก เพื่อเป็นแนวทางพัฒนาศักยภาพนักเรียนต่อไป

 

 

 

ขณะที่สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD) ได้รายงานผลการเข้าร่วมประชุม UNCTAD ครั้งที่ 14 ณ กรุงไนโรบี สาธารณรัฐเคนยา ระหว่างวันที่ 17 – 22 กรกฎาคม 2559 ในหัวข้อหลัก “From Decision to Action : Moving towards an inclusive and equitable global economic environment for trade and development” ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของไทยในฐานะประธานกลุ่ม 77 ที่มุ่งเน้นการนำผลลัพธ์จากการประชุมระหว่างประเทศที่สำคัญในปี 2548 มาสู่การปฏิบัติจริง

 

 

นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการยังได้นำผลการประชุม Super Board มาดำเนินการต่อเนื่อง โดยได้เน้นย้ำเรื่องของงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่กระทรวงศึกษาธิการได้รับมาประมาณ 9,000 ล้านบาท เป็นส่วนของ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) ประมาณ 5,000 ล้านบาท ได้กำชับให้ดำเนินการตามนโยบายที่จะพัฒนาคุณภาพหลักสูตรคุรุศาสตร์ ส่วนด้าน สพฐ. ได้รับงบกระตุ้นเศรษฐกิจประมาณ 388 ล้านบาท ซึ่งกำชับให้เร่งดำเนินงานเรื่องการบริหารโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า 20 คน ต้องหาแนวทางควบรวมให้ได้ และโรงเรียนขยายโอกาส จะต้องพิจารณาเรื่องระยะทาง จำนวนครู, นักเรียน โดยจะมีการพัฒนาโรงเรียนขยายโอกาสให้กลายเป็นโรงเรียนแม่เหล็ก ดึงดูดโรงเรียนขนาดเล็กใกล้เคียงให้เข้ามาร่วมกัน ซึ่งจะมีการลงทุนในทุกๆ ด้านให้เห็นผลอย่างชัดเจน

 

ปารัชญ์/สรุป

ธเนศ, กิตติกร/ภาพ

กลุ่มสารนิเทศ สอ.สป.