ผลประชุมองค์กรหลัก

นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมองค์กรหลัก ครั้งที่ 22/2560 เมื่อวันอังคารที่ 13 มิถุนายน 2560 ณ ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ว่าที่ประชุมซึ่งมี พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน ได้รับทราบมติคณะรัฐมนตรี ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี รวมทั้งประเด็นที่ได้หารือในประเด็นที่สำคัญ 2 เรื่อง ดังนี้

การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562

นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ กล่าวว่า สำนักงบประมาณได้เห็นชอบแนวทางและปฏิทินการดำเนินงานจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 ซึ่งเร็วขึ้นกว่าวงรอบปีที่ผ่าน ๆ มา โดยมอบให้ทุกกระทรวงเร่งจัดทำแผนงาน 2 ส่วน ทั้งแผนบูรณาการเชิงพื้นที่ และแผนบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์

การจัดทำแผนบูรณาการเชิงพื้นที่ ของกระทรวงศึกษาธิการ จะเป็นบทบาทของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) สำนักงานศึกษาธิการภาค (ศธภ.) และสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ ที่จะต้องจัดทำแผนงานโครงการให้สนองตอบต่อความต้องการในระดับจังหวัด หรือแผนบูรณาการระดับภาค โดยต้องเร่งจัดทำแผนให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายน 2560 ส่วนระยะที่สองจะเป็นการจัดทำแผนบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ ที่จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนตุลาคม 2560

จุดเด่นของการจัดทำแผนดังกล่าว คือ กระทรวงศึกษาธิการจะวางแผนดำเนินการให้สอดรับกับการของบประมาณแบบบูรณาการทั้งเชิงพื้นที่และเชิงยุทธศาสตร์อย่างต่อเนื่องกับปีงบประมาณ พ.ศ.2560

ทั้งนี้ การจัดทำแผนบูรณาการดังกล่าวจะเป็นงานชิ้นแรกของ ศธจ./ศธภ.ที่ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งการจัดทำรายละเอียดวงเงินและคำของบประมาณรายจ่ายของกระทรวง จะต้องกำหนดตัวชี้วัดให้ชัดเจน และการวางแผนผลิตผู้เรียนของสถาบันอุดมศึกษาจะต้องเป็นไปตามสาขาที่เป็นความต้องการของประเทศ


การสำรวจข้อมูลผู้มีรายได้น้อย ผ่านการจ้างนักศึกษากว่า 7 หมื่นราย

จากการที่กระทรวงการคลังได้รายงานให้คณะรัฐมนตรีรับทราบผลความคืบหน้าโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ หลังจากผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนทั้งสิ้น 14.1 ล้านราย โดยได้ตั้งเป้าการตรวจสอบสิทธิ์และคุณสมบัติต้องให้เสร็จภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2560

จากนั้นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจะดำเนินการสำรวจข้อมูลผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้ความช่วยเหลือมีประสิทธิภาพและตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบวงเงิน 971 ล้านบาท จากงบกลางปีงบประมาณ พ.ศ.2560 เพื่อใช้ในการสำรวจข้อมูลผ่านการจ้างนักศึกษาระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษาที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวนประมาณ 70,000 คน รวมทั้งครูและบุคลากรทางการศึกษาอีกกว่า 2,000 คน เพื่อสนับสนุนให้นักศึกษามีรายได้เพิ่มในช่วงปิดเทอม

โดยรัฐบาลจะสนับสนุนงบประมาณเป็นค่าตอบแทนเหมาจ่ายให้นักศึกษา และเป็นค่าตอบแทนรายวันให้ครู และขอให้สำรวจข้อมูลให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2560 เพื่อให้ทันกับการให้สวัสดิการผู้มีรายได้น้อยที่ผ่านเกณฑ์ในวันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นไป

ดังนั้น จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่จะช่วยให้นักศึกษาหาความรู้ ควบคู่ไปกับการบำเพ็ญประโยชน์และการสร้างรายได้อีกด้วย


บัลลังก์ โรหิตเสถียร: สรุป/รายงาน
กลุ่มสารนิเทศ สป.: ถ่ายภาพ
13/6/2560