ฝ่าวิกฤตการศึกษาไทยด้วยคุณภาพ
ศาสตราจารย์คลินิก นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ฝ่าวิกฤตการศึกษาไทยด้วยคุณภาพ” ในการประชุมวิชาการระดับชาติ ด้านการประกันคุณภาพการศึกษา ครั้งที่ 1 จัดโดยมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ ซ.รางน้ำ โดยมีผู้บริหารและคณาจารย์ เข้าร่วม 452 คน จาก 44 สถาบัน
จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ประเทศยังติดอยู่ในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) รวมทั้งปัจจัยด้านผู้เรียนที่มีจำนวนลดลง ทั้งในภาพรวมของมหาวิทยาลัยรัฐ ลดลงร้อยละ 10-15 และในมหาวิทยาลัยเอกชน ทั้งมหาวิทยาลัยเอกชนขนาดใหญ่ ที่นักศึกษาลดลงร้อยละ 20-30 และกลุ่มมหาวิทยาลัยเอกชนขนาดเล็ก ที่นักศึกษาลดลงมากถึงร้อยละ 50-70 จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงใยมากว่ามหาวิทยาลัยจะอยู่ได้อย่างไร
ดังนั้น จึงได้กระตุ้นเตือนต่อที่ประชุมไปแล้วว่า ถึงเวลาแล้วที่สถาบันอุดมศึกษาต้องตื่นตัวต่อแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงข้างต้น รวมทั้งแนวโน้มใหม่ของโลกในศตวรรษที่ 21 ทั้งการปรับตัวสู่สังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ยุคโลกาภิวัตน์ (Globalizing Knowledge-Based Economy) การปรับนโยบายและเส้นทางการผลิตไปสู่การเพิ่มมูลค่าของทรัพยากร (Value-Added Segment) และการขับเคลื่อนที่มุ่งเน้นด้านผลิตภัณฑ์ และการบริการที่อาศัยองค์ความรู้และนวัตกรรม (Knowledge-Intensive and Innovation-Driven Products and Services) เชื่อมโยงสู่การเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเรื่องของการเรียนกับการทำงานเป็นเรื่องเดียวกัน ผู้เรียนสามารถเรียนนอกมหาวิทยาลัย เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา โดยจะเน้นเรียนในลักษณะ Module เน้นสมรรถนะและทักษะมากกว่าความรู้ ตลอดจนเรียนเพื่อสร้างความท้าทาย และสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อพัฒนาตนเอง
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ จะช่วยให้สามารถ “ฝ่าวิกฤตการศึกษาไทยด้วยคุณภาพ” โดยการสร้างคนไทย 4.0 ที่มีความคิดทันสมัยทันโลก ที่สำคัญคือ “มหาวิทยาลัยต้องคิดใหญ่ให้ได้” เพื่อพัฒนากำลังคนให้เป็น High Level Quality Workforce พัฒนางานวิจัยไปสู่การสร้างนวัตกรรม กลุ่มเป้าหมายของสถาบันอุดมศึกษาก็เปลี่ยนแปลงไป มิใช่เพียงเด็กมัธยมศึกษากว่า 3 แสนคนเช่นเดิม ซึ่งมีแนวโน้มอัตราการเกิดลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่หมายถึงคนทำงานและผู้สูงอายุอีกกว่า 10 ล้านคน ที่ต้องการพัฒนาทักษะ สมรรถนะ และความรู้ใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์การทำงานจริงที่จะต้องใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ตลอดจนเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าทันสมัยมากขึ้น
สิ่งสำคัญของการอุดมศึกษาก็คือ “เรื่องของคุณภาพ” ซึ่งมหาวิทยาลัยมักจะถูกคาดหวังว่าจะผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ เป็นพลเมืองโลกที่ประสบความสำเร็จ มีความสุข และมีความสามารถในการแก้ไขปัญหาของสังคม ประเทศ และโลกได้ และแน่นอนว่า คำว่า “คุณภาพ” มีความหมายหลายอย่าง โดยในส่วนของคุณภาพสำหรับการอุดมศึกษา มีคำจำกัดความหมายรวมถึง 3 ปัจจัย ได้แก่ การเป็นไปตามมาตรฐานหรือข้อกำหนด การสร้างความพึงพอใจต่อผู้ใช้หรือลูกค้า และจะต้องมีต้นทุนการดำเนินงานที่เหมาะสม โดยจะต้องดำเนินการเรื่องการประกันคุณภาพควบคู่ไปด้วยเสมอ
Photo Credit