หัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล และ รมช.ศึกษาธิการ “พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์” ลงพื้นที่พบปะให้กำลังใจนักเรียนโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่โรงเรียนนาทวีวิทยาคม จ. สงขลา ย้ำเด็กสานฝันฯ ทุกคนทั้ง 12 โรงเรียนคือความภาคภูมิใจของนายกรัฐมนตรี พร้อมชื่นชมโรงเรียนที่เป็นแบบอย่างในการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ส่วนนักเรียนดาวรุ่งวงการกรีฑาไทยของโรงเรียน “มูฮัมหมัดฟิตรี” ฝากขอบคุณผู้ที่มีส่วนทำให้โครงการนี้เกิดขึ้น เปรียบเหมือนของขวัญชิ้นดีในชีวิต

เมื่อวันศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม 2561 พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ หัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธัมมศักดิ์ วาสะศิริ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ พล.ต.พงษ์ศักดิ์ มาอินทร์ นายกสมาคมสานฝันการศึกษาชายแดนใต้ เดินทางลงพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เพื่อพบปะพูดคุยกับนักเรียนโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่โรงเรียนนาทวีวิทยาคม อำเภอนาทวี
พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า นักเรียนโครงการสานฝันฯ ทุกคนคือความภาคภูมิใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มโครงการ ด้วยเห็นว่าเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวนมากชอบเล่นกีฬา จึงได้มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการในเรื่องนี้ เพื่อนำระบบการกีฬาเข้าสู่ระบบการศึกษา ตนเองในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้ดูแลรับผิดชอบการจัดการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดทำโปรแกรมการเรียน “วิทย์-กีฬา” และ “ศิลป์-กีฬา” โดยเริ่มต้นตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 และต่อมาได้ขยายโรงเรียนสานฝันฯ เพิ่มเป็น 12 แห่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขยายผลเป็นโครงการ “ห้องเรียนกีฬา” ทั่วทุกภูมิภาคอีก 8 แห่งจนถึงปัจจุบัน ซึ่งความก้าวหน้าดังกล่าวเกิดจากการสนับสนุนและความร่วมมือจากครู ผู้บริหาร ครูพี่เลี้ยง โค้ช พ่อแม่ผู้ปกครอง จนเกิดผลสำเร็จเป็นที่ปรากฏโดยทั่วไป และรัฐบาลมีแผนที่จะดำเนินการโครงการอย่างต่อเนื่อง
สำหรับโรงเรียนนาทวีวิทยาคม ตั้งอยู่ในอำเภอนาทวี ซึ่งเป็น 1 ใน 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา (อำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย) ที่อยู่ในพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของสงขลา) โดยได้เข้าร่วมโครงการสานฝันฯ เมื่อปีการศึกษา 2559 เป็น 1 ใน 12 โรงเรียนของโครงการสานฝันฯ ปัจจุบันมีนักเรียนในโครงการสานฝันฯ จำนวน 194 คน ซึ่งเรียนใน 5 ประเภทกีฬา ได้แก่ ฟุตบอล วอลเลย์บอล ตะกร้อ มวยไทย และกรีฑา
โรงเรียนนาทวีวิทยาคม ถือเป็นแบบอย่างที่ดีในการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม “รู้ รัก สามัคคี” อย่างแท้จริง นักเรียน ครู และบุคลากรในโรงเรียนนี้มีทั้งนับถือศาสนาพุทธและศาสนาอิสลาม แต่ทุกคนมีเป้าหมายอันเดียวกัน คือ การพัฒนาประเทศชาติอย่างเต็มความสามารถ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพ สร้างทางเลือกให้แก่เยาวชนในพื้นที่ผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ โรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้ ห้องเรียนดนตรี ห้องเรียนอาชีพ โครงการสานฝัน ฯลฯ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของเยาวชน ผู้ปกครอง ชุมชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
โอกาสนี้ พล.อ.สุรเชษฐ์ ได้กล่าวให้กำลังใจนักเรียน รวมทั้งเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายได้ร่วมมือกันปฏิบัติงานอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ และขอให้นักเรียนในโครงการสานฝันฯ ทุกคนตั้งใจมุ่งมั่น ขยัน อดทน ตามคำขวัญของโครงการคือ “จุดประกายความฝัน มุ่งมั่นสู่อนาคต ปรากฏสู่ความสำเร็จ” นับเป็นโอกาสจากรัฐบาลที่มอบให้ และต่อไปทุกคนก็จะกลับมาพัฒนาพื้นที่ให้เข้มแข็ง ประเทศชาติก็จะพัฒนาเติบโตอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป

นายมูฮัมหมัดฟิตรี อุเซ็ง นักเรียนที่ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขันกรีฑาในหลายรายการ อาทิ การแข่งขัน Cross Country นักเรียนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 3 ณ ฮ่องกง, การแข่งขันกรีฑานานาชาติ ครั้งที่ 2 (2nd Asian Youth Athletics Championship 2017) และล่าสุดคือการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ
ครั้งที่ 34 “น่านเกมส์” ซึ่ง “มูฮัมหมัดฟิตรี” ก็ไม่พลาดในการคว้า 2 เหรียญทองจากการแข่งขัน 10,000 เมตร และ 5,000 เมตร ซึ่งเป็นการป้องกันแชมป์อีกด้วย ถือเป็นเยาวชนที่มีความโดดเด่นและดาวรุ่งของวงการกรีฑาไทย
“ผมดีใจที่ได้มาเข้าร่วมโครงการสานฝันฯ ที่นี่ครับ พ่อแม่ก็ดีใจ โครงการให้อะไรมากมาย ทั้งประสบการณ์ต่าง ๆ ได้เรียนหนังสือ ได้เล่นกีฬาที่ตัวเองชอบ ได้อยู่ร่วมกันเพื่อน ๆ ทั้งไทยพุทธและมุสลิม เรามาจากต่างที่ แต่เราก็รักกันครับ ผมอยากขอบคุณทุก ๆ คนที่มีส่วนทำให้เกิดโครงการนี้ เป็นเหมือนของขวัญชิ้นดีที่มอบให้กับเราครับ” มูฮัมหมัดฟิตรี กล่าวถึงโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้



Written by ศธ.ส่วนหน้า
Photo Credit ศธ.ส่วนหน้า
Rewriter/Editor บัลลังก์ โรหิตเสถียร