พัฒนาชุมชนเชิงพื้นที่แบบองค์รวม
ศาสตราจารย์คลินิก นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการพัฒนาชุมชนเชิงพื้นที่แบบองค์รวม (Holistic Area Based Community Development: HAB) ระหว่างสถาบันอุดมศึกษาและสถานศึกษา 11 แห่ง กับบริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) เพื่อบูรณาการพัฒนาชุมชนผ่านเครือข่ายปฏิบัติการทางสังคมรวม 17 พื้นที่ใน 12 จังหวัด โดยมีนายวีรสิทธิ์ สิทธิไตรย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา, นายเชษฐา โฆสิกรัตน์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) ตลอดจนผู้บริหารสถานศึกษา สถาบันอุดมศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะครูอาจารย์ และสื่อมวลชน เข้าร่วม เมื่อวันพุธที่ 22 สิงหาคม 2561 ณ ห้องประชุม มล.ปิ่น มาลากุล ชั้น 3 อาคารรัชมังคลาภิเษก
ต้องขอชื่นชม บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) ที่ทุ่มเทปฏิบัติงานเพื่อพัฒนาชุมชนเชิงพื้นที่แบบองค์รวม ที่เป็นนวัตกรรมสู่การปฏิบัติในพื้นที่ จนเกิดเป็น “ช่องสาริกาโมเดล” ด้วยความร่วมมือกับเครือข่ายปฏิบัติการทางสังคมรวม 17 พื้นที่ใน 12 จังหวัด ซึ่งจะได้นำมาเป็นต้นแบบตอบสนองนโยบายการพัฒนาเครือข่ายอุดมศึกษา เพื่อพัฒนางานใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสุขภาพ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านการศึกษา ที่จะช่วยสร้างความเข้มแข็งและคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ประชาชน
ซึ่งการที่สถาบันอุดมศึกษาได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาชุมชนเชิงพื้นที่แบบองค์รวม หรือ HAB ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการเป็นที่พึ่งพิงของทุกภาคส่วนในพื้นที่ ด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้และหลักวิชาต่าง ๆ สู่ชุมชน เนื่องจากสถาบันอุดมศึกษาเป็นแหล่งรวมองค์ความรู้ และความเชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลข่าวสาร ระบบการทำงาน เทคโนโลยี ที่จะช่วยสนับสนุนการทำงาน ตลอดจนมีเครือข่ายมหาวิทยาลัย 9 แห่งในทุกภูมิภาค และมีบุคลากร คณาจารย์ นิสิตนักศึกษากระจายอยู่ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ส่วนภาคเอกชนก็จะทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการ งบประมาณ และถ่ายทอดประสบการณ์และนวัตกรรมการพัฒนา จากนั้นจึงร่วมกันจัดแผนงาน ชุดข้อมูล และคู่มือการดำเนินงาน พร้อมมีการติดตามประเมินผล และถอดบทเรียนเพื่อปรับปรุงโครงการที่จะขยายผลไปยังพื้นที่อื่นต่อไป
มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิกชุมชนในพื้นที่เป้าหมาย และให้บริการแก่สังคม เพื่อพัฒนาต้นแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันอุดมศึกษา ชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอ และจังหวัด ในรูปแบบการพัฒนาชุมชนเชิงพื้นที่แบบองค์รวมที่เป็นนวัตกรรม สู่การปฏิบัติในพื้นที่และขยายผลในวงกว้าง ตอบสนองนโยบายการพัฒนาเครือข่ายอุดมศึกษา เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของแต่ละพื้นที่ (Area Based Approach) ของภาครัฐ
นายวนัส แต้ไพสิฐพงษ์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา บริษัท เบทาโกรฯ ได้ทำงานเพื่อช่วยเหลือและพัฒนาชุมชนเชิงพื้นที่แบบองค์รวม ด้วยความเชื่อที่ว่าภาคเอกชนสามารถสร้างประโยชน์ที่ส่งผลกระทบกับชุมชนได้ จนเกิดเป็น “ช่องสาริกาโมเดล” ใช้เป็นเครื่องมือการจัดการด้านการเพิ่มผลผลิตของชาวบ้าน สร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยและสถานศึกษา ซึ่งถือเป็นแหล่งรวมขององค์ความรู้ บุคลากร ครูอาจารย์ และนิสิตนักศึกษาจำนวนมาก ก็จะช่วยให้การทำงานมีพลัง รวดเร็ว และขยายออกไปในวงกว้างมากขึ้น
การลงนามในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อแสดงเจตจำนงของเครือข่ายปฏิบัติการทางสังคมใน 17 พื้นที่ 12 จังหวัด ในการพัฒนาชุมชนเป้าหมายสนองนโยบายภาครัฐ ตลอดจนเป็นต้นแบบความร่วมมือของภาคเอกชน ภาครัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งในระดับจังหวัดและอำเภอ ก่อนที่จะนำไปขยายผลในวงกว้างต่อไป ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดงบประมาณของภาครัฐแล้ว ยังสามารถขยายผลนโยบายต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี นำไปสู่ความยั่งยืนได้ในที่สุด ทั้งนี้ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การพัฒนาชุมชนประสบความสำเร็จ
นายเชษฐา โฆสิกรัตน์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ตามแนวทางของรัฐบาล โดยได้มอบนโยบายและวางยุทธศาสตร์เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในระดับจังหวัด ด้วยแนวทางสานพลังประชารัฐ เพื่อสร้างความอยู่ดีกินดีแก่ประชาชน ทั้งพลังทางองค์ความรู้จากสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ พลังสนับสนุนจากภาคเอกชน และพลังของคนในพื้นที่ ตั้งแต่ระดับผู้บริหารท้องถิ่น ประชาชน และชุมชน
และในปัจจุบัน ได้ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการอย่างใกล้ชิดกับชุมชน พร้อมเตรียมบรรจุการพัฒนาชุมชนเชิงพื้นที่แบบองค์รวม ไว้ในแผนงานระดับจังหวัดผ่านโครงการต่าง ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากทั้งสถาบันอุดมศึกษาและภาคเอกชน ส่วนแผนยุทธศาสตร์ระดับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ก็จะยังคงขับเคลื่อนเพื่อตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อสร้างความมั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน ต่อไป และในโอกาสนี้ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนการทำงานของกระทรวงมหาดไทย ให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
Photo Credit
Editor