ศธ.จัดพิธีทำบุญตักบาตรและถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
กระทรวงศึกษาธิการ จัดพิธีทำบุญตักบาตรและพิธีถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร (7 วัน) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม 2559 ณ บริเวณหน้าอาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ

1. พิธีทำบุญตักบาตร
เมื่อเวลา 7.30 น. พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จากวัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร พระอารามหลวง จำนวน 10 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่บริเวณหน้าอาคารราชวัลลภ โดยมี พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ และ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารฝ่ายการเมือง ผู้บริหารองค์กรหลักและหน่วยงานในสังกัด ตลอดจนข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการเข้าร่วมพิธี จากนั้นมีพิธีทอดผ้าบังสุกุลและกรวดน้ำรับพร

2. พิธีถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ต่อมาเวลา 8.00 น. พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นำคณะผู้บริหารและข้าราชการร่วมพิธีถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกล่าวถวายความอาลัยดังนี้
“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 ทรงครองสิริราชสมบัติได้ 70 ปี ยังความเศร้าโศกอาดูรแก่ปวงพสกนิกรเป็นล้นพ้น
ปวงข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคลากรกระทรวงศึกษาธิการ ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ทรงมีน้ำพระราชหฤทัยที่เปี่ยมไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวง ทรงห่วงใยปวงประชาราษฎร์ เป็นที่ประจักษ์
พระราชกรณียกิจด้านการศึกษาสุดคณานับ โดยเฉพาะพระราชกระแสรับสั่งเกี่ยวกับครูและนักเรียน ซึ่งเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติของครู และผู้บริหารสถานศึกษาทั้งปวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งโรงเรียนหลายแห่ง เช่น โรงเรียนจิตรลดา ที่เป็นโรงเรียนสำหรับเจ้าฟ้าและสามัญชน, โรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ สำหรับพัฒนาชาวไทยภูเขา, โรงเรียนร่มเกล้า, โรงเรียนวังไกลกังวล, โรงเรียน ภปร. ราชวิทยาลัย รวมทั้งทรงมีพระราชดำริเกี่ยวการศึกษา ดังเช่น โครงการจัดการศึกษาด้วยระบบทางไกลผ่านดาวเทียม ทั้งยังทรงเคยเสด็จไปพระราชทานความรู้แก่เด็กนักเรียนในรายการศึกษาทัศน์ ทรงมีพระราชดำริ ริเริ่มโครงการโรงเรียนพระดาบส ที่ให้ความรู้วิชาชีพแก่ผู้ด้อยโอกาส ทรงตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาต่างๆ เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ทั่วประเทศ ทรงพระราชทานทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน นักศึกษา เป็นจำนวนมาก เช่น ทุนภูมิพล ทุนมูลนิธิอานันทมหิดล ทุนเล่าเรียนหลวง
พระมหากรุณาธิคุณด้านการศึกษาสุดคณานับนี้ กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระราชสมัญญา “พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน” พระราชวิสัยทัศน์อันเปี่ยมไปด้วยพระปรีชาญาณอันลึกซึ้ง จักอยู่ในจิตใจของปวงข้าพระพุทธเจ้า และจักสืบสานพระราชปณิธานด้านการศึกษา รวมทั้งนำหลักการทรงงานและพระบรมราโชวาท มาเป็นหลักในการดำรงตน และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น และสุจริตใจ เพื่อประโยชน์สุขแก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชน สืบไป
สุดท้ายนี้ ขอเชิญทุกท่านยืนสงบนิ่งไว้อาลัย รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ”

โอกาสนี้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวฝากถึงชาวกระทรวงศึกษาธิการทุกคนว่า จากวันนี้ไปจนกว่าคนรุ่นเราจะตายไปจากโลกนี้ หากบอกว่ารักพระองค์ ก็คงต้องทำอะไรหลายอย่าง โดยเฉพาะพวกเราซึ่งมีความรับผิดชอบด้านการศึกษา จะวิเคราะห์พระบรมราโชวาท พระราชดำรัส และแนวทางด้านการศึกษาซึ่งพระราชทานไว้ได้อย่างไร นั้นเป็นงานของเรา
ในเรื่องแรกที่กระทรวงศึกษาธิการต้องช่วยกันทำ คือ ต้องปลูกฝังให้ลูกหลานของเรา เข้าใจถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อรักษาให้สถาบันพระมหากษัตริย์จะต้องอยู่คู่ประเทศไทยตลอดไป เป็นโอกาสดีที่เราอยู่ในจุดที่สามารถปลูกฝังเด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้ได้เข้าใจถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งทรงรักษาแผ่นดินนี้ไว้ เป็นโจทย์ที่ทุกหน่วยงาน ทั้งสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ต้องไปตีความ ต้องหันไปมองว่าเกิดช่องว่างอะไร ที่ทำให้คนไทยหลายกลุ่ม หลายพวก ลืมสถาบันพระมหากษัตริย์ไป ต้องหาให้เจอและอุดช่องว่างให้ได้ นาทีนี้และวิกฤตินี้เป็นโอกาสของเรา เชื่อว่าหลายคนคงคิดเช่นนี้
ส่วนตัวตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา พร้อมพยายามที่จะคิดและทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาด้านการศึกษาของประเทศตามอำนาจหน้าที่ และหวังว่าทุกคนก็คงคิดเช่นกัน แต่เมื่อถึงวันที่พระองค์จากไป กลับเป็นดั่งแรงกระตุ้นให้ได้ทบทวนตัวเองว่า ที่ผ่านมาได้ทำตามแนวทางพระองค์จริงหรือไม่ เพียงพอหรือไม่ ซึ่งพบว่ายังไม่เพียงพอ ความสูญเสียนี้ยิ่งใหญ่และเป็นแรงกระตุ้นกลับมายังตัวเราและพวกเราทุกคน ทั้งผู้บริหาร ข้าราชการทุกระดับ แม้จะเป็นข้าราชการใหม่หรือพนักงานราชการ ก็สามารถทำสิ่งที่เป็นปณิธานของพระองค์ท่านได้ ซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อรู้ว่าท่านเคยพระราชทานคำสั่งสอนหรือแนะนำอะไรไว้บ้าง ฉะนั้นจึงต้องการให้ทุกคนทุกระดับอ่านและดู พร้อม ๆ กับต้องทบทวนตัวเองด้วย
ในความเป็นจริงแล้ว เราดำเนินรอยตามพระองค์มาโดยตลอด จะเห็นได้จากประโยคแรกที่นำมาใช้ตั้งแต่รัฐมนตรีทั้ง 3 คนเข้ามาทำงาน คือ “ให้เด็กรักครู และครูรักเด็ก” เป็นคำที่มีความหมายกว้างมาก และสามารถจำแนกงานออกมาได้หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตร วิธีการสอน ความรู้ครู สวัสดิการครู และอีกหลาย ๆ อย่างซึ่งไม่เฉพาะเรื่องของครูเท่านั้น แต่เชื่อมโยงไปสู่ผู้บริหาร ที่จะสื่อสารอย่างไรเพื่อทำให้ครูทุกสังกัดทุกประเภทรักเด็กได้ ในขณะที่ฝ่ายบริหาร ก็ต้องลงมือทำ ปรับปรุง แก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ส่วนอีก 2 ประโยคเป็นเรื่องของเทคนิคเพิ่มเติม คือ “ให้ครูสอนเด็กให้มีน้ำใจต่อเพื่อน ไม่ให้แข่งขันกัน แต่ให้แข่งกับตัวเอง ให้เด็กที่เรียนเก่งกว่า ช่วยสอนเพื่อนที่เรียนช้ากว่า” และ “ให้ครูจัดกิจกรรมให้เด็กทำร่วมกัน เพื่อให้เห็นคุณค่าของความสามัคคี”

ขอขอบคุณทุกคน แม้ในช่วงที่ผ่านมาเราจะเศร้าโศก สะเทือนใจ และเสียใจ แต่พวกเราก็ลุกขึ้นยืนเพื่อทำงานของเราต่อไป ดังคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีที่ว่า “เราต้องทำงานของเราต่อไป ต้องก้าวต่อไป สืบสานปณิธานของพระองค์ให้ได้จริง ๆ” และตนขอเน้นคำว่า “ให้ได้จริง ๆ” ในงานด้านการศึกษา
นวรัตน์ รามสูต, บัลลังก์ โรหิตเสถียร : สรุป/รายงาน
ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี : ถ่ายภาพ
20/10/2559