มติ ครม.22 ม.ค.62
มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2562 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ คือ อนุมัติหลักการ
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา กำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ดังนี้
1. บุคคลธรรมดา ให้หักลดหย่อนได้เป็นจำนวน 2 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาสำหรับโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนอื่น ๆ
2. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้หักเป็นรายจ่ายได้เป็นจำนวน 2 เท่าของรายจ่ายที่บริจาค ไม่ว่าจะได้จ่ายเป็นเงินหรือทรัพย์สิน แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายที่จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการศึกษาสำหรับโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบ และรายจ่ายที่จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดสร้างและการบำรุงรักษาสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬาของเอกชน ที่เปิดให้ประชาชนใช้เป็นการทั่วไปโดยไม่เก็บค่าบริการใด ๆ หรือสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ หรือสนามกีฬาของทางราชการแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิก่อนหักรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ และรายจ่ายเพื่อการศึกษาหรือเพื่อการกีฬาตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากร
ทั้งนี้ สำหรับการบริจาคที่กระทำตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปารีณา ศรีวนิชย์ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ในคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา แทนตำแหน่งที่ว่างลง
นอกจากนี้ กำหนดให้มีที่มาจากภาควิชาการ และปรับปรุงที่มาของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 เพื่อให้มีที่มาจากภาควิชาการ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ภาคละสองคน ซึ่งอย่างน้อยต้องมีผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายหนึ่งคน ตามนัยมาตรา 21 (2) แห่งพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. 2561 จำนวน 2 คน ได้แก่ 1) รองศาสตราจารย์ดารณี อุทัยรัตนกิจ เดิม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาควิชาการ ปรับปรุงเป็น กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคประชาสังคม 2) นายภัทระ คำพิทักษ์ เดิม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคประชาสังคม ปรับปรุงเป็น กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2562 เป็นต้นไป
แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการการอุดมศึกษา
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการการอุดมศึกษา รวม 14 คน แทนประธานกรรมการและกรรมการเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี ดังนี้
1. ศาสตราจารย์ประสาท สืบค้า ประธานกรรมการ
2. ศาสตราจารย์เกียรติคุณกิตติชัย วัฒนานิกร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
3. ศาสตราจารย์ชาติชาย ณ เชียงใหม่ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
4. รองศาตราจารย์บัณฑิต ทิพากร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
5. ศาสตราจารย์ปานสิริ พันธุ์สุวรรณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
6. รองศาสตราจารย์ไพโรจน์ ภัทรนรากุล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
7. ผู้ช่วยศาสตราจารย์รัฐชาติ มงคลนาวิน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
8. ศาสตราจารย์ศันสนีย์ ไชยโรจน์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
9. ศาสตราจารย์สมชาย วงศ์วิเศษ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
10. ศาสตราจารย์สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
11. รองศาสตราจารย์สุธรรม อยู่ในธรรม กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
12. รองศาสตราจารย์พรชัย เทพปัญญา กรรมการผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
13. รองศาสตราจารย์ประสบศรี อึ้งถาวร กรรมการผู้แทนองค์กรวิชาชีพ
14. นายธนู กุลชล กรรมการผู้แทนองค์กรเอกชน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2562 เป็นต้นไป
แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และ
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอให้กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี จำนวน 2 ราย ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งหนึ่งปีในวันที่ 22 มกราคม 2562 และในวันที่ 23 มกราคม 2562 ตามลำดับ คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่ออีกหนึ่งวาระ โดยลำดับที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2562 และลำดับที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2562 ดังนี้
1. นายพันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อยู่ในบังคับบัญชารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
2. นายโศภณ นภาธร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ อยู่ในบังคับบัญชารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
Rewriter/