มาตรการพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี

มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ เห็นชอบมาตรการพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 2562 และอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ



เห็นชอบมาตรการพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 2562


กระทรวงการคลังเสนอมาตรการพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 2562 ซึ่งประกอบด้วยมาตรการพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 2562 ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและมาตรการภาษี เพื่อพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 2562 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา คือ


1. มาตรการพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 2562 ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ


(ข้อ 1.3 มาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ช่วงเปิดปีการศึกษา)


1) วัตถุประสงค์ : เพื่อช่วยเหลือค่าชุดนักเรียนและอุปกรณ์การศึกษาช่วงเปิดปีการศึกษาเพิ่มเติมจากการช่วยเหลือของกระทรวงศึกษาธิการที่มีอยู่เดิม ซึ่งเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้พ่อแม่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับชุดนักเรียนและอุปกรณ์การศึกษา เป็นจำนวน 500 บาทต่อบุตร 1 คน (ได้รับครั้งเดียว)


2) กลุ่มเป้าหมาย :  ผู้ผ่านคุณสมบัติการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐที่ระบุว่ามีบุตรอายุไม่เกิน 18 ปีบริบูรณ์ โดยปัจจุบันยังมีอายุไม่เกิน 18 ปี (นับจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2562) และต้องเป็นนักเรียนที่มีรายชื่อในฐานข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งนี้ การให้สิทธิจะให้ตามจำนวนบุตรผ่านแม่หรือพ่อที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งมีจำนวนบุตรประมาณ 2,700,000 คน


3) รายละเอียดมาตรการ : กรมบัญชีกลางจะนำเงินจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ใส่ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่องกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 500 บาทต่อบุตร 1 คน ภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 ซึ่งผู้มีรายได้น้อยสามารถใช้ซื้อชุดนักเรียนและอุปกรณ์การศึกษาผ่านเครื่อง EDC แอปพลิเคชันถุงเงินประชารัฐ หรือถอนเงินสดจากเครื่องถอนเงินอัตโนมัติเพื่อชำระค่าสินค้าดังกล่าวได้


4) งบประมาณ : ประมาณ 1,350 ล้านบาท โดยใช้เงินจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากสังคม


2. มาตรการภาษีเพื่อพยุงเศรษฐกิจในช่วงกลางปี 2562


(ข้อ 2.2 มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการซื้อสินค้าเกี่ยวกับการศึกษาและกีฬา)


1) หลักการ : กำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถนำค่าซื้อสินค้าที่ได้จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไปเป็นค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการคำนวณภาษีเงินได้ตามที่จ่ายจริงตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2562 แต่ไม่เกิน 15,000 บาท สำหรับการซื้อสินค้าเกี่ยวกับการศึกษาและกีฬาดังต่อไปนี้


     1.1)  อุปกรณ์การศึกษา แต่ไม่รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์


     1.2)  เครื่องแต่งกายสำหรับการศึกษา


     1.3)  อุปกรณ์กีฬา


     1.4)  เครื่องแต่งกายสำหรับการเล่นกีฬา


2) หลักเกณฑ์  วิธีการ  และเงื่อนไข :


     2.1)  ต้องได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป


     2.2)  หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่น ๆ ให้เป็นไปตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด


3) ผลกระทบ : จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประมาณ 1,500 ล้านบาท


4) ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ : สนับสนุนให้มีการซื้อสินค้าเกี่ยวกับการศึกษาและกีฬา


5) แนวทางการปรับปรุงกฎหมาย : ออกกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร จำนวน 1 ฉบับ


(ข้อ 2.4 มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการอ่าน 🙂


1) หลักการ : กำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถนำค่าซื้อหนังสือและค่าบริการหนังสือที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (e-Book) ทุกประเภทที่จะจ่ายให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นตามที่จ่ายจริงไปเป็นค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการคำนวณภาษีเงินได้ตามที่จ่ายจริงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 แต่ไม่เกิน 15,000 บาท


2) หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข :


     2.1 รายจ่ายตามข้อ 1) หากรวมกับรายจ่ายในการซื้อสินค้าและบริการตามข้อ 1 (2) และ (3) ของกฎกระทรวง ฉบับที่  341 (พ.ศ. 2561) ที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 16 มกราคม 2562 ต้องไม่เกิน 15,000 บาท


     2.2 หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่น ๆ ให้เป็นไปตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด


3) ผลกระทบ : จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประมาณ 2,250 ล้านบาท


4) ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ : สนับสนุนให้ประชาชนซื้อหนังสือ และได้รับความรู้จากการอ่านมากขึ้น และช่วยยกระดับคุณภาพทุนมนุษย์ของประเทศ อันสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 – 2580)


5) แนวทางการปรับปรุงกฎหมาย : ออกกฎกระทรวงฉบับที่ .. (พ.ศ. ….) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร จำนวน 1 ฉบับ



อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ


คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง นายสุรศักดิ์ อินศรีไกร ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผน (นักวิชาการศึกษาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2561 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์


ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป


รายละเอียดเพิ่มเติม


Written by บัลลังก์ โรหิตเสถียร
Photo ภาพประกอบ thaigov.go.th
Rewriter/Editor บัลลังก์ โรหิตเสถียร