
นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายกมล รอดคล้าย ที่ปรึกษา รมช.ศึกษาธิการ และนายชลำ อรรถธรรม ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมกาาส่งเสริมการศึกษาเอกชน ตรวจเยี่ยมการจัดการศึกษาเอกชนในพื้นที่จังหวัดยะลา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม 2563 ณ โรงเรียนลุกมานูลฮากีม อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ โดยรัฐมนตรีทั้ง 3 คน ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษา เพื่อสร้างโอกาสและความเท่าเทียมทางการศึกษาในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย รวมถึงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้ตวามร่วมมือของทุกภาคส่วน โดยในวันนี้ ตนในฐานะกำกับดูแลการจัดการศึกษาเอกชน มีความตั้งใจเดินทางมาที่จังหวัดยะลา เพื่อร่วมสร้างความร่วมมือในการพัฒนา และเสริมเติมเต็มประสิทธิภาพการทำงาน ของทั้งครู ผู้บริหาร ตลอดจนสถานศึกษา ที่จะนำการศึกษาสร้างพื้นฐานความรู้ อาชีพ ทักษะชีวิต และสร้างความสุขของการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวด้วยว่า เมื่อได้รับมอบหมายให้ดูแลการจัดการศึกษาเอกชน ก็ได้รับฟังความต้องการ ประเด็นปัญหา และข้อเสนอแนะ นำไปสู่การกำหนดนโยบายในการพัฒนา และในขณะเดียวกัน ก็พยายามที่จะสร้างความสุข และขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งมีผลสำเร็จของการดำเนินงานในหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น การขยายเพดานค่ารักษาพยาบาลครูเอกชนจนสำเร็จ จาก 100,000 บาทต่อคนต่อปี เป็น 150,000 บาทต่อคนต่อปี มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 โดยใช้เวลาผลักดันเพียงเดือนเศษเท่านั้น, การแก้ไขปัญหาเงินอุดหนุนรายบุคคลโรงเรียนเอกชน ที่มักจะค้างจ่ายในช่วงระหว่างเหลื่อมปีงบประมาณ ซึ่งในช่วงปลายปีงบประมาณ 2562 ได้ผลักดันจนสามารถจ่ายเงินส่วนนี้ได้ตรงเวลา เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการการศึกษาที่มีความคล่องตัวมากขึ้น ในส่วนของข้อเสนอปรับเพิ่มเงินอุดหนุนรายบุคคล และเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวันนั้น ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างหาแนวทางและงบประมาณในการดำเนินงาน เป็นต้น
นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ 2563 ได้เตรียมแผนงานและโครงการเพื่อพัฒนาการศึกษาเอกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามนโยบายสำคัญ วงเงินงบประมาณ 908 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินอุดหนุนศูนย์การศึกษาอิสลามประจํามัสยิด (ตาดีกา) สถาบันการศึกษาปอเนาะ โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามควบคู่วิชาสามัญในระบบ สำหรับครูผู้สอนศาสนาอิสลาม และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามนอกระบบที่สอนศาสนาอย่างเดียว ตลอดจนโครงการพัฒนาคุณภาพ และประสิทธิภาพการศึกษาเอกชน อาทิ โครงการเสริมสร้างความเข้าใจในสถานศึกษา โครงการต้นกล้าเยาวชนโรงเรียนเอกชน โครงการพัฒนาทักษะการอ่านและเขียนภาษาไทย และโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งและความจงรักภักดี ต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
รวมทั้งได้เตรียมอบรมผู้บริหารและครูโรงเรียนเอกชน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา พัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนการสอนปฐมวัย การจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษา พร้อมยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา สำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษและความสามารถพิเศษ การเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมในสถานศึกษา และส่งเสริมกระบวนการลูกเสือในสถานศึกษา เป็นต้น โดยขอมอบให้ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชน จังหวัดยะลา ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแผนงานโครงการต่าง ๆ แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมกำกับดูแลการดำเนินงานและใช้งบประมาณ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ และเกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายที่กำหนด รวมทั้งงบประมาณบูรณาการ ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการจัดการศึกษาเอกชนในพื้นที่นี้ ขอให้ช่วยสนับสนุนโรงเรียนเอกชน ให้ได้รับงบประมาณ และนำไปใช้ประโยชน์ในทุกภาคส่วนร่วมกัน โดยพยายามไม่ให้ซ้ำซ้อนกับแผนงานและโครงการที่อยู่ในงบปกติของ สช.อยู่แล้ว
ในส่วนของรัฐมนตรีจะผลักดันแผนงานและโครงการต่าง ๆ ไปสู่การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง พร้อมจะเสนอแนวทางการพัฒนาการศึกษาเอกชนใหม่ ๆ ที่จะเกิดประโยชน์ต่อการสร้างกำลังคนสู่ศตวรรษที่ 21 เพื่อปูพื้นฐานทักษะคิดเป็นวิเคราะห์ได้ ด้วยหลักสูตรอบรม “จินตคณิต” โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมทั้งโครงการอื่น ๆ ที่นำองค์ความรู้และเทคโนโลยียุคใหม่เข้าสู่ห้องเรียนด้วย
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวแสดงความชื่นชมนักเรียนและโรงเรียนทุกแห่ง ที่นำเสนอผลงานและนิทรรศการในการจัดการศึกษาที่มีความก้าวหน้า สอดคล้องกับยุคดิจิทัล และเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาทักษะ ความรู้ ความสามารถ ของนักเรียนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรม STEM และนวัตกรรมเครื่องดูดฝุ่นจิ๋ว ของโรงเรียนสตรีศาสนูปถัมภ์, ผลงานวิทยาศาสตร์ การออกแบบและพัฒนานวัตกรรมบริการเครื่องดื่ม “ม็อคเทล” และการใช้ Application LINE ออกแบบนวัตกรรมระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน ของโรงเรียนสมบูรณ์ศาสน์วิทยา, ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และสิ่งประดิษฐ์เปเปอร์มาเช่ ของโรงเรียนมุสลิมบำรุง เป็นการเสริมสร้างทักษะชีวิต สร้างรายได้ และช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ผู้ปกครอง, การพัฒนาหลักคิดด้วย “จินตคณิต” และการทดลองวิทยาศาสตร์ “กระถางต้นไม้จากชานอ้อย” ส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ และสร้างประโยชน์จากวัสดุในพื้นที่ และรักษาสิ่งแวดล้อม ของโรงเรียนรุ่งอรุณพัฒนา รวมทั้งโรงเรียนสามัคคีธรรม ที่มีการสอนจินตคณิต เป็นเวลา 20 นาทีต่อวัน เพื่อพัฒนาระบบคิดของผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนโรงเรียนลุกมานูลฮากีม ก็ได้นำเสนอผลงานการทดลองวิทยาศาสตร์เช่นกัน อาทิ ขวดเป่าลูกโป่ง เป็นต้น ทั้งยังให้ใช้สถานที่ในการจัดกิจกรรมในวันนี้ โดยโรงเรียนลุกมานูลฮากีม เป็นโรงเรียนเอกชนประเภทการศึกษาสงเคราะห์ จัดการเรียนการสอนตั้งแต่อนุบาล 1-ป.6 มีนักเรียนรวม 563 คน มีครูและบุคลากร 45 คน และมีนางรอซีดะห์ มะสง เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน โดยโรงเรียนได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การเรียนการสอน และการจัดกิจกรรม จนได้รับรางวัลระดับดีเยี่ยม “โรงเรียนต้นแบบด้านการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐพอเพียงจังหวัดยะลา” ด้วย
“เพราะเราทุกคนอยู่บนผืนแผ่นดินไทยด้วยกัน จึงต้องการเห็นชาวการศึกษาเอกชนทุกคนมีรอยยิ้ม และทำงานอย่างมีความสุข โดยรัฐมนตรีคนนี้มีความตั้งใจจริง ที่จะนำพาการพัฒนาการศึกษาควบคู่ศาสนาอย่างมีคุณภาพและมาตรฐาน ให้เกิดความเท่าเทียมและทั่วถึงให้ได้มากที่สุด รวมทั้งการมีศีลธรรมอันดี เพื่อเป็นรากฐานของเด็ก เยาวชน และประชาชน อันจะเป็นการสร้างความสุขในชีวิตความเป็นอยู่ และการพัฒนาดินแดนแห่งสันติสุขให้เจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว
นวรัตน์ รามสูต: สรุป/เรียบเรียง
อิทธิพล รุ่งก่อน: ถ่ายภาพ
กลุ่มประชาสัมพันธ์ สร.ศธ.: รายงาน
12/3/2563