พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานและพบปะนักเรียนโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จังหวัดปัตตานี เผยในปีนี้จะเปิดโอกาสให้นักเรียนโครงการสานฝันฯ จากจังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถโอนย้ายหน่วยกิตไปเรียนในโรงเรียนโครงการห้องเรียนกีฬาแห่งใดก็ได้ทั้ง 4 ภูมิภาค ที่สุโขทัย มหาสารคาม กระบี่ และสมุทรสาคร

● ติดตามโครงการสานฝันการกีฬาฯ ที่โรงเรียนโพธิ์คีรีราชศึกษา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ กล่าวว่า โครงการ “สานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้” เป็นโครงการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้เด็กและเยาวชนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เรียนตามความถนัดและความสนใจในหลักสูตรวิทยาศาสตร์-กีฬา และศิลป์ (ภาษาอังกฤษ)-กีฬา ซึ่งหลักสูตรการศึกษาดังกล่าวไม่เพียงมุ่งความเป็นเลิศและฝึกฝนทักษะเพื่อการแข่งขันหรือการเป็นนักกีฬาเท่านั้น แต่ให้นักเรียนมีทักษะกีฬาควบคู่กับด้านวิชาการ มีคุณภาพ มีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่ดี รวมถึงเป็นเส้นทางเข้าสู่อาชีพเกี่ยวกับกีฬาได้ในอนาคต โดยกระทรวงศึกษาธิการได้สนับสนุนทุนการศึกษาเต็มจำนวนแก่นักเรียนในโครงการ จนสำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา
ทั้งนี้ ได้เริ่มเปิดสอนหลักสูตรโครงการสานฝันการกีฬาฯ เมื่อปีการศึกษา 2558 จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ จ.ยะลา และโรงเรียนรือเสาะชนูปถัมภ์ จ.นราธิวาส และปีการศึกษา 2559 ได้ขยายผลเพิ่มอีก 4 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนมัธยมสุไหงปาดี จ.นราธิวาส โรงเรียนโพธิ์คีรีราชศึกษา จ.ปัตตานี โรงเรียนละงูพิทยาคม จ.สตูล และโรงเรียนนาทวีวิทยาคม จ.สงขลา รวมเป็น 6 แห่ง ครอบคลุมทั้ง 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถรับนักเรียนได้จำนวนทั้งสิ้น 430 คน จึงต้องการมาตรวจเยี่ยมและพบปะนักเรียนของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการในปีนี้
สำหรับโรงเรียนโพธิ์คีรีราชศึกษา จ.ปัตตานี ได้เปิดหลักสูตรวิทยาศาสตร์-กีฬา และศิลป์-กีฬา ใน 4 ประเภทกีฬา คือ ฟุตบอล วอลเลย์บอล ตะกร้อ และเทควันโด รวมจำนวนนักเรียนรุ่นแรก 72 คน

ในการตรวจเยี่ยมกิจกรรมต่าง ๆ ของนักเรียนชั้น ม.4 ซึ่งเป็นรุ่นแรกของโครงการสานฝันฯ ก็พบว่านอกจากนักเรียนจะได้เรียนรู้และฝึกทักษะด้านกีฬาแล้ว นักเรียนยังมีความรู้พื้นฐานในสายวิชาสามัญเช่นนักเรียนทั่วไปในโรงเรียน เช่น การปลูกพืชสวนเศรษฐกิจพอเพียง การทำปุ๋ยธรรมชาติ การคัดแยกขยะ ฯลฯ และจากการพูดคุยกับนักเรียนก็พบว่ามีความสุขกับการเรียน ซึ่งได้ให้ข้อแนะนำว่านอกจากนักเรียนจะมีความรู้ความสามารถทักษะกีฬาแล้ว ต้องมีทักษะความสามารถในการใช้ชีวิตที่ดี มีคุณค่า มีประโยชน์ต่อตนเอง ญาติพี่น้อง ครอบครัว และบ้านเมือง พร้อมทั้งขอให้น้อมนำกระแสพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปฏิบัติให้เกิดผล และให้เพื่อน ๆ ช่วยเหลือกันในเรื่องการเรียนด้วย
ภายหลังการตรวจเยี่ยม รมช.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยนายบุญรักษ์ ยอดเพชร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน ได้ร่วมประชุมติดตามผลการดำเนินงานของศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กระทรวงศึกษาธิการ (คปต.ศธ.) ที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยได้มีการหารือเกี่ยวกับโครงการสานฝันฯ เพิ่มเติมด้วย ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จจนขยายไปสู่โครงการ “ห้องเรียนกีฬา” ใน 4 ภูมิภาค ที่สุโขทัย มหาสารคาม กระบี่ และสมุทรสาคร และได้รับความสนใจจากผู้ปกครองและนักเรียนในพื้นที่เป็นอย่างมาก เพราะเห็นผลปรากฏของลูกหลานที่มีระเบียบวินัย ทักษะ มีภาวะผู้นำมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงได้ย้ำให้การคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนในปีการศึกษา 2560 เป็นไปด้วยโปร่งใส ยุติธรรม
ที่สำคัญ ที่ประชุมเห็นว่า ในปีนี้ จะเปิดโอกาสให้นักเรียนโครงการสานฝันฯ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถโอนย้ายหน่วยกิตไปเรียนในโรงเรียนโครงการห้องเรียนกีฬาแห่งใดก็ได้ทั้ง 4 ภูมิภาค คือ ภาคเหนือ ที่โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม จ.สุโขทัย, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่โรงเรียนสารคามพิทยาคม จ.มหาสารคาม, ภาคใต้ ที่โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย กระบี่ และ ภาคกลาง ที่โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ จ.สมุทรสาคร
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเปิดโอกาส เพิ่มทางเลือกให้นักเรียน แต่ต้องเป็นความสมัครใจของนักเรียนและได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองด้วย ซึ่งจะต้องมีคุณสมบัติครบตามที่กำหนดไว้ในโครงการห้องเรียนกีฬา คือ มีส่วนสูงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ขั้นต่ำ คือ ฟุตบอลชาย ส่วนสูงไม่น้อยกว่า 175 ซม. และวอลเลย์บอลหญิง ไม่น้อยกว่า 165 ซม. รวมทั้งมีพื้นฐานทักษะกีฬาในระดับดี และจะต้องผ่านการพิจารณาของโรงเรียนห้องเรียนกีฬานั้น ๆ ด้วย โดยมอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ปกครองและนักเรียนโครงการสานฝันฯ ได้รับทราบต่อไป

● เปิดกิจกรรม “ราชภัฏ คนของพระราชา ข้าของแผ่นดิน” ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา
อนึ่ง ในช่วงเช้าวันเดียวกัน พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ ได้เป็นประธานเปิดกิจกรรม “ราชภัฏ คนของพระราชา ข้าของแผ่นดิน” พร้อมพบปะพูดคุยกับผู้บริหาร บุคลากร และนักศึกษา รวมทั้งเป็นประธานเปิดศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ในโอกาส “14 กุมภาพันธ์ วันราชภัฏ”

พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ กล่าวว่า เมื่อปี 2535 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้วิทยาลัยครูทั่วประเทศได้ขยายขอบเขตการจัดการศึกษา ซึ่งแต่เดิมมีลักษณะเป็นวิทยาลัยวิชาชีพเฉพาะทาง ให้สามารถจัดการศึกษาให้กว้างขวางขึ้น กรมการฝึกหัดครู กระทรวงศึกษาธิการ จึงนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานนาม วิทยาลัยครูใหม่ เพื่อเป็นสิริมงคลและเพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานนามใหม่แก่วิทยาลัยครูทุกแห่งว่า “สถาบันราชภัฏ” เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2535 นับเป็นสิริมงคลและเป็นเกียรติสูงสุดแก่สถาบันราชภัฏ
และต่อมาในวันที่ 6 มีนาคม 2538 ได้มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้อัญเชิญตราพระราชลัญจกรส่วนพระองค์ เป็นตราประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ เป็นสิ่งที่นำความภาคภูมิใจสูงสุดมาสู่ชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานนาม “ราชภัฏ” และตราประจำมหาวิทยาลัย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณและเกียรติยศสูงสุดแก่ชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วพระราชอาณาจักร โดยนาม “ราชภัฏ หมายความว่า เป็นคนของพระราชา”

โอกาสนี้ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ได้ยกพระบรมราโชวาทในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งได้ทรงพระราชทานแก่คณะผู้บริหารและสภาคณาจารย์มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ณ ศาลาดุสิดาลัย เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2533 ตอนหนึ่งว่า “…ผู้ที่เป็นครูอาจารย์นั้น ใช่ว่าจะมีแต่ความรู้ในทางวิชาการ และในทางการสอนเท่านั้นก็หาไม่ จะต้องรู้จักอบรมเด็กทั้งในด้านศีลธรรมจรรยาและวัฒนธรรม รวมทั้งให้มีความสำนึกรับผิดชอบในหน้าที่ด้วย…”
นอกจากนี้ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ได้ฝากหลักคิดที่ใช้มาโดยตลอดว่า ผู้ที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ต้องมีคุณสมบัติ 5 ประการ คือ ความรู้ ความสามารถ โอกาส ผู้สนับสนุน และบุญกุศล พร้อมทั้งย้ำคำว่า “ราชภัฏ คือ คนของพระราชา ข้าของแผ่นดิน” จึงฝากให้ชาวราชภัฏน้อมนำนามพระราชทาน ไปปฏิบัติถวายงานดุจข้าราชบริพารอย่างสุดชีวิตสุดจิตใจ เพื่อให้เป็นมงคลเจริญก้าวหน้าสืบไป
บัลลังก์ โรหิตเสถียร: สรุป/รายงาน
บัลลังก์ โรหิตเสถียร: ถ่ายภาพ
ภาพเพิ่มเติม Facebook @ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี
17/2/2560