จังหวัดสมุทรสาคร – พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อพบปะและติดตามผลการดำเนินงานโครงการห้องเรียนกีฬา ภาคกลาง เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 19 พฤษภาคม 2560 ณ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ สมุทรสาคร ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภอเมืองสมุทรสาคร

พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ กล่าวกับนักเรียนโครงการห้องเรียนกีฬา ของโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ สมุทรสาคร ว่า วันนี้ (19 พฤษภาคม) เป็นวันรายงานตัวเข้าเรียน หลังจากผ่านการสอบคัดเลือกได้ จึงต้องการพบปะ ให้กำลังใจ และแสดงความยินดีกับนักเรียนทุกคน พร้อมทั้งกล่าวถึงจุดเริ่มต้นโครงการเพื่อให้นักเรียนได้รับทราบความเป็นมาด้วยว่า ได้ริเริ่มเมื่อ 2 ปีก่อนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเปิดรับสมัครเด็กเข้าเรียนชั้น ม.4 ตามความสมัครใจใน 10 ประเภทกีฬา เช่น ฟุตบอล ฟุตซอล กรีฑา มวยไทย ฮอกกี้ ปัญจสีลัต วอลเลย์บอล ฯลฯ โดยใช้ชื่อโครงการว่า “สานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้” และเมื่อดำเนินการไปแล้ว 2 ปี ได้ผลตอบรับที่ดีมากจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งมีความต้องการส่งบุตรหลานเข้าเรียนมากขึ้น จนถึงปัจจุบันมี 8 โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ มีจำนวนนักเรียนกว่า 1 พันคน ขณะนี้นักเรียนรุ่นแรกกำลังเรียนชั้น ม.6 จึงถือว่าโครงการสานฝันฯ เป็นโครงการริเริ่มที่เน้น “ให้เด็กได้รับโอกาสและความหลากหลายในประเภทกีฬา”
จนกระทั่งปีที่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เห็นว่าเมื่อได้ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ผลดีเป็นอย่างมาก จึงขอให้ขยายไปยังพื้นที่อื่น แต่ขอให้มีความแตกต่างจากโครงการสานฝันฯ กล่าวคือ “ให้เน้นรูปร่างและส่วนสูง” เพื่อต้องการให้เด็กได้รับการพัฒนาสมรรถภาพและภาวะโภชนาการ สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ในระดับสากลหรือแข่งขันกับนักกีฬาระดับนานาชาติได้
กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้จัดทำโครงการ “ห้องเรียนกีฬา” โดยขยายไปยัง 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งในปีแรกคือปีการศึกษา 2559 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้คัดเลือกโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการห้องเรียนกีฬาเข้าเรียนชั้น ม.4 จำนวน 3 แห่ง ภาคเหนือที่ รร.สุโขทัยวิทยาคม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ รร.สารคามพิทยาคม และภาคใต้ที่ รร.กาญจนาภิเษกวิทยาลัย กระบี่ ใน 2 ประเภทกีฬา คือ ฟุตบอลชาย และวอลเลย์บอลหญิง ในหลักสูตรวิทย์-กีฬา และศิลป์-กีฬา
จนกระทั่งในปีการศึกษานี้ ได้ขยายมาภาคกลาง ณ ที่โรงเรียนแห่งนี้ โดยได้รับนักเรียนชั้น ม.1 เพิ่มเข้ามาด้วย แต่เริ่มต้นเฉพาะกีฬาฟุตบอลเท่านั้น ทำให้ปัจจุบันมีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ “ห้องเรียนกีฬา” จำนวน 4 แห่ง มีนักเรียนรุ่นแรก 219 คน รุ่นที่สอง 299 คน รวมทั้งสิ้น 518 คน ส่วนปีการศึกษาต่อไปจะเปิดเพิ่มอีก 4 แห่งทั่วประเทศ ที่จังหวัดชัยภูมิ อุดรธานี เพชรบูรณ์ และชุมพร

โอกาสนี้ พล.อ.สุรเชษฐ์ ได้ขอให้นักเรียนให้ความสำคัญในการเรียนหนังสือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และฝากให้เชื่อฟังครู รักษาระเบียบวินัย และห่างไกลยาเสพติด เพื่อต้องการให้เด็กโครงการห้องเรียนกีฬาได้เดินทางไปสู่เป้าหมายร่วมกัน คือ “เส้นทางสู่ฝัน สรรค์สร้างแรงบันดาลใจ นักกีฬาไทยสู่สากล” ซึ่งถือว่าเด็กห้องเรียนกีฬาจะได้รับโอกาสด้วยทุนเรียนฟรีจนจบ ม.6 จากนั้นจะมีโควต้าที่นั่งเข้าเรียนจนจบปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งกระจายอยู่ 17 แห่งทั่วประเทศอีกด้วย

ทั้งนี้ พล.อ.สุรเชษฐ์ ได้ย้ำกับผู้อำนวยการโรงเรียนและครูผู้ดูแลด้วยว่า ขอให้วางแผนงานที่จะดำเนินการล่วงหน้า เช่น ขณะนี้โรงเรียนได้รับนักเรียนรุ่นแรก 80 คน และเมื่อครบ 3 ปีแล้วจะมีนักเรียนเพิ่มเป็น 240 คน จึงขอให้เน้นการวางแผน การสร้างและบำรุงรักษาสนามฟุตบอลเพื่อใช้ฝึกซ้อมทั้ง 2 สนามให้มีมาตรฐาน เช่น พื้นผิวสนาม ระบบระบายน้ำ ห้องพักนักกีฬา การสร้างสระว่ายน้ำเพื่อให้ออกกำลังกาย หรือแม้กระทั่งระบบไฟในสนาม ซึ่งขณะนี้อาจมองว่าเป็นเรื่องที่ยากหรือทำไม่ได้ แต่ในอนาคตหากวางแผนไว้อย่างดี อาจจะมีผู้สนับสนุนให้เกิดขึ้นได้จริง
บัลลังก์ โรหิตเสถียร: สรุป/รายงาน
อิทธิพล รุ่งก่อน: ถ่ายภาพ