เสริมสร้างศักยภาพการทำงานเป็นทีม
จังหวัดนครราชสีมา – กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ (C.P.Group) จัดอบรมเชิงปฏิบัติการกลุ่มผู้บริหารสถานศึกษาและทีมงาน ครั้งที่ 4 ตามโครงการเสริมสร้างศักยภาพการทำงานเป็นทีม “รวมพลังสร้างสรรค์ทีม” (The Synergy Teamwork for education: Transformation Ministry of Education in collaboration with C.P. Group) ภายใต้คอนเซ็ปท์ “MOE One Team” เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการทำงานเป็นทีมให้เกิดพลังขององค์กร (Synergy) รวมทั้งเพื่อพัฒนาทักษะการสร้างทีมงานที่มีประสิทธิผล (Effective Team Building Skill) ตลอดจนทักษะภาวะผู้นำที่จำเป็นสำหรับผู้บริหารในศตวรรษที่ 21 (Essential Leadership Skills in the 21st Century) โดยมีผู้อำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียน/ครูวิชาการ และครู ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าอบรมในรุ่นนี้ 20 Cluster แยกเป็นส่วนกลาง 18 เขตตรวจราชการ/การศึกษาพิเศษ จำนวน 60 คน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-20 สิงหาคม 2560 ณ สถาบันพัฒนาผู้นำเครือเจริญโภคภัณฑ์ (C.P.Leadership Institute หรือ CPLI) อำเภอปากช่อง
เมื่อวันเสาร์ที่
จากนั้น จึงได้มีการอบรมกลุ่มผู้อำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียน/ครูวิชาการ และครูที่ผ่านการคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เข้าอบรม 20 Cluster จาก 18 เขตตรวจราชการและการศึกษาพิเศษ จำนวน 60 คน อีกจำนวน 3 ครั้ง ใน
สำหรับการอบรม
นอกจากนี้ ได้ฝากให้ผู้เข้าอบรมที่ได้รับโอกาสเข้าอบรมในหลักสูตรดี ๆ ระดับโลกครั้งนี้ด้วยว่า “เมื่อท่านได้มาก สังคมก็ต้องคาดหวังจากท่านมาก ท่านจึงต้องตอบแทนสังคมมากเช่นกันด้วย” ดังนั้น กระทรวงศึกษาธิการจะสนับสนุนแนวคิดของแต่ละกลุ่มในการพัฒนาสถานศึกษาของตนเองด้านต่าง ๆ ตามที่ต้องการ โดยขอให้ส่งโครงการในการพัฒนาสถานศึกษาภายในวันที่ 10 กันยายนนี้ เพื่อ สพฐ. และ
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า ประสบการณ์และความรู้ของตนที่สะสมมาในยุค 3.0 ตอนนี้ยังสู้คนรุ่นใหม่ไม่ได้ เพื่อนฝูงของเราในยุคนี้สามารถเพิ่มมาได้จากทั่วโลกแม้ไม่ได้รู้จักกันก็ตาม แต่ก็สามารถทำงานด้วยกันได้ ‘4.0 คือโลกที่ไม่สิ้นสุด’ และในโลกของยุค 4.0 บางสาขาอาชีพจะใช้คนน้อยลง เช่น ธนาคาร เพราะจะใช้ e-Banking กันมากขึ้น นอกจากนี้โลกเราจะมีอาชีพเกิดใหม่ที่เราคิดไม่ถึงอีกมากมาย เช่น อาชีพซ่อมบำรุงจะเกิดขึ้นเยอะ เพราะยิ่งใช้อุปกรณ์มาก ยิ่งต้องดูแลบำรุงรักษามาก รวมทั้งบริการจากอาชีพต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นอีกมากมายต่อไป ก็คือ ธุรกิจประเภทบริการ โลจิสติกส์ ท่องเที่ยว หุ่นยนต์ ซอฟต์แวร์ ฯลฯ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จึงเป็นเรื่องสำคัญมากต่อประเทศ
ขอขอบคุณความร่วมมือโครงการนี้ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ) จนถึงรัฐมนตรีปัจจุบันที่ให้เกียรติร่วมมือโครงการ ซึ่ง
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และกรรมการในคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา
ทั้งนี้
1) ข้อมูลความต้องการของตลาด ในส่วนของ ศธ.ก็จะเป็นผู้ปกครอง ระบบสังคม ข้อมูลของเด็ก แต่การจัดทำข้อมูลที่ดีนั้น ความเร็วและคุณภาพต้องไปด้วยกัน
2) สร้างความฝัน ต้องไม่มีอะไรที่คิดว่าเราทำไม่ได้ และการวางเป้าหมายในแต่ละห้วงเวลาและเป็นระยะ ๆ ก็เป็นเรื่องสำคัญ
3) การพัฒนาผู้นำ ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง
4) ตัวชี้วัด ซึ่งเปรียบเสมือนกระจกส่องตัวเรา เพราะอะไรก็ตาม หากไม่สามารถวัดผลได้อย่างมีคุณภาพ ก็จะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ที่สำคัญเมื่อวัดได้แล้ว ก็ต้องมีความต่อเนื่องด้วย
สิ่งสำคัญนอกเหนือจาก 4 ข้อข้างต้นคือ “ต้องมีใจ” จึงฝากผู้เข้ารับการอบรมทุกท่านอย่าละความตั้งใจที่ท่านให้ไว้
นายณรงค์ แผ้วพลสง รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า ถือเป็นความโชคดีของครูและผู้บริหารโรงเรียน 20 โรงเรียน จำนวน 60 ท่านที่เข้าอบรมรวม 3 ครั้งจนจบหลักสูตร ความคาดหวังได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ 60 ท่านจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการพัฒนาผู้นำของ สพฐ. และประเทศในอนาคต โดย สพฐ.จะสนับสนุนแนวทางการพัฒนาโรงเรียน 20 แห่งนี้ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามที่แต่ละโรงเรียนได้ร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมกับวิทยากร มาเป็นเวลานานกว่า 9 เดือน
นางสาวคาดียะห์ อามานะกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านธารน้ำใส กล่าวว่า ในนามตัวแทนของผู้เข้ารับการอบรม ขอขอบคุณวิทยากรจากต่างประเทศที่เดินทางมาให้ความรู้และเทคนิคในการบริหารงาน รวมทั้งคณะผู้บริหาร
บัลลังก์ โรหิตเสถียร: สรุป/รายงาน
ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี: ถ่ายภาพ
20/8/2560