แก้ไขปัญหาการทุจริตของกระทรวง

ผลการประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาการทุจริตของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีความคืบหน้าผลสอบกรณีทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาคุณภาพชีวิต พบข้าราชการเอี่ยว 25 ราย และความคืบหน้าโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา (อควาเรียมสงขลา) ส่ง ป.ป.ช. แล้ว คาดรู้ผลสิ้นเดือน พ.ค.นี้

วันนี้ (9 พ.ค.61) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนแก้ปัญหาการทุจริตของกระทรวงศึกษาธิการ ว่า ศธ. ได้ทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) อย่างใกล้ชิด ในการตรวจสอบกรณีการทุจริตในเรื่องต่าง ๆ

ขณะเดียวกัน ป.ป.ท. ได้นำกระบวนการทำงานทุกรูปแบบที่มีมาใช้กับการทำคดีทุจริต กองทุนเสมาพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นต้นแบบให้กับกรณีอื่น ๆ ในอนาคต ซึ่งทาง ป.ป.ท. ยืนยันว่าอีกไม่นานจะดำเนินการเสร็จสมบูรณ์ ส่วนการทำงานของ ศธ.นั้น คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงฯ ทำงานร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มแข็ง และตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด พบว่ากรณีทุจริตกองทุนเสมาฯ มีข้าราชการเกี่ยวข้อง จำนวน 25 ราย ทั้งที่พ้นจากราชการไปแล้ว และยังรับราชการอยู่ โดยแบ่งเป็น

– กลุ่มทุจริตต่อหน้าที่ราชการ จำนวน 4 คน

– กลุ่มกลุ่มรายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา จำนวน 2 คน

– กลุ่มไม่ปฏิบัติตามแบบแผนและธรรมเนียมของทางราชการ จำนวน 2 คน

– กลุ่มประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ จำนวน 21 คน

  (ทั้งนี้ มีข้าราชการบางรายที่เข้าข่ายเกี่ยวข้องมากกว่าหนึ่งกลุ่ม)

ส่วนความเสียหายจากการทุจริตเงินกองทุนเสมาฯ ขณะนี้ยอดรวมอยู่ที่ประมาณ 77 ล้านบาท โดยขอชี้แจงให้รับทราบด้วยว่า ผู้ที่ให้ความร่วมมือกับผู้ทุจริต จะโดนข้อหาฟอกเงินด้วย ขณะนี้ทาง ป.ป.ท. และ ป.ป.ง. กำลังสืบหาเส้นทางการเงินอยู่ โดยมีการสอบสวนทุกบัญชีที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของกระบวนการเยียวยา ขณะนี้กำลังหาช่องทางช่วยเหลืออยู่ โดยได้ประสานไปทางกระทรวงสาธารณสุขให้ตัวแทนนักเรียนพยาบาลที่ได้รับความเสียหายมายื่นเรื่องร้องเรียนที่ ศธ. โดยจะเร่งดำเนินการความผิดทางละเมิดเพื่อเยียวยาผู้เสียหายอย่างเต็มที่

ส่วนโครงการก่อสร้างศูนย์ศึกษาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทะเลสาบสงขลา (อควาเรียมสงขลา) ขณะนี้ส่ง ป.ป.ช. แล้ว คาดรู้ผลสิ้นเดือน พ.ค.นี้

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวรายละเอียดถึงเรื่องนี้ว่า คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงได้มีข้อสรุปเบื้องต้นว่า ตั้งแต่เริ่มโครงการก่อสร้างอควาเรียมสงขลา เมื่อปี 2549 ภายในสองเดือนแรกก็มีการแก้ไขสัญญากันแล้ว รวมถึงตลอด 10 ปีของการดำเนินโครงการฯ มีการแก้ไขสัญญาทั้งสิ้นจำนวน 6 ครั้ง ซึ่งทางคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนแก้ปัญหาทุจริตฯ และคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง มีความเห็นตรงกันว่าเป็นการกระทำที่ผิดสังเกต เนื่องจากมีเหตุผลไม่เพียงพอในการแก้ไขสัญญา โดยเฉพาะการแก้ไขสัญญาสองครั้งสุดท้าย มีรายการแก้ไขกว่าร้อยรายการ

สิ่งสำคัญอีกเรื่องคือมีการจ่ายเงินล่วงหน้าก้อนใหญ่ ประ
มาณ 125 ล้านบาท
ขณะที่ระยะเวลาสิ้นสุดสัญญาในปี 2546 นั้น อควาเรียมสงขลายังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่มีการตรวจรับไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีเงินเหลือจ่ายลงไปที่อควาเรียมสงขลาทุกปี ปีละประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการนำเงินไปเสริมทัศนียภาพ ทั้งที่ตัวอาคารยังสร้างไม่เสร็จ และหาคำอธิบายยังไม่ได้

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับเรื่องไปดำเนินการทางอาญาต่อแล้ว ส่วนทาง ศธ. จะส่งข้อสรุปเรื่องสัญญาดังกล่าวส่งให้ ป.ป.ช. ด้วย คาดว่าจะทราบผลชัดเจนภายในเดือนพฤษภาคม 2561


Written by ปารัชญ์ ไชยเวช
Photo Credit ธนภัทร จันทร์ห้างหว้า, กิตติกร แซ่หมู่
Editor บัลลังก์ โรหิตเสถียร